ปณท เร่งปรับคุณภาพลดปัญหาพัสดุเสียหาย

ปณท ปรับคุณภาพบุคลากร-กระบวนการคัดแยก หวังลดปัญหาพัสดุเสียหาย จัดกิจกรรมชดใช้ค่าเสียหาย 1.5 เท่า หากบรรจุพัสดุผ่าน 17 ไปรษณีย์นำร่องแล้วเสียหาย ขณะที่รายได้ครึ่งปี 58 เติบโตต่อเนื่องตามกระแสอีคอมเมิร์ซ เผยมีรายได้กว่า 11,000 ล้านบาท กำไรกว่า 1,300 ล้านบาท คาดสิ้นปีรายได้อยู่ที่ 22,000 ล้านบาท กำไร 2,000 ล้านบาท

นายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. 58 พบพัสดุที่ส่งผ่านไปรษณีย์สูญหายจำนวน 1,200 ชิ้น เสียหาย 280 ชิ้น และส่งล่าช้า 3,000 ชิ้น ดังนั้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในการขนส่งพัสดุ และลดความเสียหายในการจัดส่งสินค้าให้มากที่สุด ปณท จึงได้พัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการทำพัสดุเสียหายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยการจัดอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดส่งสินค้า

ขณะเดียวกัน จะดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น มีเครื่องคัดแยกแบบสายพานช่วยในการปฏิบัติงานคัดแยกสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ประเภทกล่อง และซองขนาดใหญ่ ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง ปรับปรุงอุปกรณ์ไปรษณีย์ ได้แก่ ลังพลาสติก ถุงไปรษณีย์แบบกล่อง กระบะบรรจุไปรษณีย์ เป็นต้น และอุปกรณ์เคลื่อนย้าย (Dolly) ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการนำจ่าย โดยการพัฒนาระบบนำจ่ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ และกล่อง การนำจ่ายในอาคารสูงและการนำจ่ายในช่วงฤดูฝน เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยการนำจ่ายโดยรถยนต์

“เราต้องบอกว่าสถิติความเสียหายในการจัดส่งพัสดุของเราน้อยมาก จาก 1 ล้านชิ้น เสียหายแค่ 33 ชิ้น คิดเป็นสัดส่วนยังไม่ถึง 1% เลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ต้องการลดให้เหลือแค่ 0% ให้เร็วที่สุด ซึ่งก็บอกไม่่ได้ว่าจะเมื่อไหร่ จริงๆ เราไม่ต้องการให้มีพัสดุเสียหายเลย เพราะปัจจุบันโลกโซเชียลมันไปไกลมาก ของเสียหายแค่ชิ้นเดียว มันก็ทำให้รับรู้ไปได้ไกล”

ทั้งนี้ อีกสาเหตุหนึ่งในการทำพัสดุเสียหาย คือ เจ้าของพัสดุผู้ส่งเองซึ่งขาดความรู้ความเข้าใจในการบรรจุพัสดุ ดังนั้น ปณท จึงได้จัดกิจกรรม “ชดใช้ค่าเสียหายสำหรับบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS” เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้บริการของจุดให้บริการหุ้มห่อ เพื่อให้การฝากส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์เมื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง ตรวจสอบการหุ้มห่อ ณ จุดให้บริการหุ้มห่อฯ และมีการประทับตรา “ตรวจสอบแล้ว” ถือว่าสิ่งของฯ มีการหุ้มห่อที่มั่นคงแข็งแรงเพียงพอ ไปรษณีย์ไทยจะมีการรับประกันการชำรุด แตกหัก เสียหาย โดยจะชดใช้ค่าเสียหายในอัตราเพิ่มพิเศษ 1.5 เท่า ของมูลค่าสิ่งของแต่ไม่เกิน 3,000 บาท ตั้งแต่วันนี้-16 พ.ย.58 เฉพาะที่ทำการไปรษณีย์ที่เข้าร่วมโครงการ 17 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

นอกจากนี้ ปณท ได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดโครงการจำหน่ายสินค้าฮาลาลช่วยเหลือผู้ประกอบการจังหวัดภาคใต้ โดย ศอ.บต.จะเป็นผู้คัดเลือกสินค้าของดีจากชายแดนใต้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล เพื่อนำไปวางจำหน่ายในที่ทำการไปรษณีย์ 30 แห่ง ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้แก่คนในพื้นที่

นายปิยะวัตร์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของปณท ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ พบว่า มีรายได้รวม 11,048.94 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,361.18 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวของธุรกิจขนส่ง ซึ่งเติบโตขึ้นจากบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) สร้างรายได้เป็นอันดับ 1 คือ 5,127.92 ล้านบาท หรือ 46.36% ขณะที่ธุรกิจสื่อสารมีสัดส่วนรายได้ 43.63 % หรือ 4,860.31 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ 439.50 ล้านบาท หรือ 4.49 % ตามด้วยธุรกิจการเงิน 286.72 ล้านบาท รายได้อื่นๆ เช่น การให้เช่าสถานที่ในการติดป้ายโฆษณา 334.49 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะทำให้ ปณท น่าจะมีรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิประมาณ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 57 ที่มีรายได้อยู่ที่ 21,790 ล้านบาท กำไร 1,794 ล้านบาท