บลูโค้ทเผยรายได้ปีที่ผ่านมาเติบโต 20% โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการเงิน มั่นใจปีนี้หากงบประมาณภาครัฐสามารถเบิกจ่ายได้จะช่วยให้รายได้เติบโตถึง 40% แต่หากไม่มีก็จะโตเท่าเดิม ด้านกลยุทธ์การตลาดนั้นจะเน้นการนำโซลูชันใหม่เข้าไปเสริมกับของเดิมที่เคยให้บริการกับลูกค้าขาประจำ โดยเฉพาะไอเอสพีและแบงก์ พร้อมเปิดตัว 2 โซลูชันใหม่ที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
นายแมทเทียส เย๋า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์ กล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมาบลูโค้ทมีอัตราการเติบโต 20% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจสถาบันการเงิน ส่วนในปีนี้คาดว่าหลังจากที่ภาครัฐได้มีแผนจัดสรรงบประมาณมาแล้ว ตลาดน่าจะดีขึ้น และน่าจะทำให้สามารถเติบโตได้ถึง 40% เนื่องจากยังมีโปรเจกต์ใหญ่กับภาครัฐอยู่ นอกจากนี้หากนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีถ้าเกิดขึ้นได้ในปีนี้อาจจะส่งผลให้บลูโค้ทโตแบบก้าวกระโดด แต่หากภาครัฐยังไม่สามารถอนุมัติงบประมาณได้นั้น บลูโค้ทก็ยังจะเติบโตอยู่ที่ 20%
สำหรับกลยุทธ์ในประเทศไทยจะเน้นไปที่ตลาดโทรคมนาคมและไอเอสพี โดยจะไปเพิ่มในส่วนของการปกป้องที่ซับซ้อนมากขึ้น มากกว่าการเป็นเว็บซีเคียวริตี้ที่ในปัจจุบันนั้น ไอเอสพีส่วนใหญ่ใช้โซลูชันของบลูโค้ทอยู่แล้ว ซึ่งบลูโค้ทจะนำการปกป้องแบบใหม่เข้าไปนำเสนอเพิ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้การปกป้องมีประสิทธิภาพครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสนใจที่จะเจาะไปยังกลุ่มสถาบันการศึกษาและกลุ่มรีเทล
“สำหรับในประเทศไทยปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 600 รายที่ใช้โซลูชันของบลูโค้ทอยู่แล้ว แบ่งเป็นลูกค้าภาครัฐ 60% และเอกชน 40% ซึ่งโซลูชันใหม่ที่บลูโค้ทจะนำเสนอนั้นจะช่วยปกป้องทั้งในส่วนของภัยคุกคามที่มองไม่เห็น และภัยคุกคามที่มีความซับซ้อน”
นายแมทเทียส กล่าวว่า การเปลี่ยนซีอีโอใหม่และการเข้าซื้อบริษัทด้านความปลอดภัยเข้ามาเพิ่มอีก 10 บริษัทที่ผ่านมา ทำให้บลูโค้ทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการให้ความปลอดภัยแบบเอนด์พอยต์ได้ จากเดิมที่ยังไม่รองรับความปลอดภัยทางด้านนี้ ซึ่งจะช่วยให้การสร้างความปลอดภัยที่ลึกขึ้น โดยล่าสุด บลูโค้ทได้เปิดตัว 2 โซลูชันใหม่เพื่อตอบสนองต่อลูกค้าองค์กรประกอบด้วย Blue Coat Advance Threat Protection และ Blue Coat Content Analysis System
โดยที่ Blue Coat Advance Threat Protection เป็นโซลูชันที่จะช่วยปกป้องภัยคุกคามขั้นสูงแบบครบวงจร ด้วยการป้องกันเครือข่ายด้วยการบล็อกภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก และตรวจจับมัลแวร์ทั้งที่อยู่ในระบบและที่ไม่รู้จัก โดยจะดำเนินการแบบอัตโนมัติ ซึ่งโซลูชันนี้ยังได้ผสานข้อมูลด้านภัยคุกคามระดับท้องถิ่นและระดับโลกเพื่อเปลี่ยนภัยคุกคามที่ไม่รู้จักให้กลายเป็นภัยคุกคามที่สามารถตรวจจับได้ ถือเป็นการปรับแนวทางเพื่อการจัดการภัยคุกคามขั้นสูงให้สอดคล้องกันอย่างครบวงจร
ส่วน Blue Coat Content Analysis System เป็นโซลูชันที่มาพร้อมฟังก์ชันการวิเคราะห์มัลแวร์ ที่จะช่วยป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงที่เกตเวย์อินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ โดยจะทำการบล็อกภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก ตรวจจับ วิเคราะห์ช่องโหว่ซีโร่เดย์ และมัลแวร์ขั้นสูง โดยจะมีการแชร์ข้อมูลภัยคุกคามใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อทำการป้องกันเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเชื่อมช่องว่างด้านการจำกัดเหตุร้ายและแนวทางแก้ไขได้เป็นอย่างดี
สำหรับเทรนด์ซีเคียวริตี้ในปี 2015 นั้นประกอบไปด้วย 1.การรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัสจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มัลแวร์ก็จะซ่อนตัวอยู่หลังการเข้ารหัสเช่นกัน 2.มัลแวร์แฝงตัวในรูปแบบของแบนเนอร์และโฆษณามากขึ้น ดึงดูดใจให้เข้าไปคลิ๊ก 3.ซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีเพิ่มมากขึ้น และมุ่งการโจมตีไปที่มือถือมากขึ้น 4.มัลแวร์เรียกค่าไถ่ จะมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจเอสเอ็มอีและหน่วยงานเล็กๆ ของภาครัฐ 5.การโจมตีจะพุ่งเป้าไปที่โซเชียลเน็ตเวิร์ก 6.ซอฟต์แวร์จารกรรมจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และ 7.จะมีการลงทุนเพื่อการปิดช่องโหว่เพิ่มมากขึ้น
Company Related Link :
บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์