xs
xsm
sm
md
lg

“คอมเซเว่น” คาดเข้าเทรดเดือนหน้า ตั้งเป้าระดมทุนขยายสาขา 500 แห่งทั่วไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7
บมจ.คอมเซเว่น คาดเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้ในเดือนสิงหาคม ประธานบอร์ดเผยตั้งเป้าระดมทุน 300 ล้านหุ้น เพื่อใช้ขยายสาขาเพิ่มให้ได้ 500 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ปักธงเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจสินค้าไอที ตั้งเป้ารายได้โตหลังเข้าตลาดอีกไม่น้อยกว่า 5% พร้อมขยายฐานไปยังประเทศเพื่อนบ้านรับ AEC

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินว่า จะสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO เป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการกำหนดราคาหุ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถแล้วเสร็จได้ภายในสิ้นเดือนนี้ โดยบริษัทฯ จะนำหุ้นออกเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาราคาพาร์หุ้นละ 0.25 บาท โดยได้แต่งตั้ง บล.เอเซียพลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ขณะที่วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปใช้ขยายสาขาเพิ่มให้ได้ 500 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่จำนวน 317 สาขา ส่วนเงินที่เหลือจะนำไปชำระหนี้สถาบัน และใช้ในการลงทุนธุรกิจวางระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท

ทั้งนี้ ธุรกิจวางระบบคอมพิวเตอร์จะเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ตลอดจนกลุ่มสถาบันการศึกษา ภายใต้ชื่อ บานาน่า บิสซิเนส โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้ในปีหน้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันรายได้ทั้งหมดมาจากการขายสินค้าไอที โทรศัพท์เคลื่อนที่และมือถือ และสินค้าไอทีเบ็ดเตล็ด

ขณะที่ในส่วนของเป้าหมายผลประกอบการในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 5% เทียบสัดส่วนรายได้จากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 14,142.46 ล้านบาท ด้านอัตรากำไร คาดว่า จะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1% โดยการเติบโตของรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเทรนด์สินค้าไอทีมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีแข่งขันกันสูงทั้งด้านราคาและคุณภาพ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มมากขึ้นถึง 1.77% จากการเน้นในเรื่องบริหารจัดการสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มในส่วนของการขายสินค้าไอทีเบ็ดเตล็ดเข้ามา ส่งผลให้มีมาจิ้นเพิ่มขึ้นถึง 40%

“รายได้ในครึ่งปีแรกสามารถเติบโตกว่า 4-5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นโอกาสที่น่าลงทุน เนื่องจากมีคู่แข่งน้อยทำให้ มีสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในการขยายสาขาของปีนี้ไว้ที่ 120 ล้านบาท ในการขยายสาขา iStudio, iBeat และ Banana IT เพิ่มให้ได้ 40-50 แห่ง โดยจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 3-10 ล้านบาทต่อสาขา และตั้งเป้าให้ครบ 500 สาขาภายในปี 2560 จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งสิ้นจำนวน 317 สาขา”

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยจะเน้นประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม AEC คือ ประเทศเวียดนาม และพม่า เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีจำนวนประชากรมาก และมีโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจไอทีได้อีกมาก โดยคาดว่าการเข้าไปลงทุนดังกล่าว จะเป็นการถือหุ้นร่วมกันกับพันธมิตรในประเทศนั้นๆ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ AEC
กำลังโหลดความคิดเห็น