โอลิมปัสลุยเปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” ชูจุดเด่นระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนครั้งแรกของโลก พร้อมอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1 ปิดท้ายปีงบประมาณ หวังกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น 2-3% จากเดิมที่มีส่วนแบ่งกล้องมิเรอร์เลสที่ 25% จากตลาดรวม 1.5 แสนตัว
นายชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก OM-D E-M5 รุ่นเดิมที่นําเสนอในรูปแบบสไตล์การใช้งานและคุณภาพในลักษณะของกล้อง DSLR โดยบรรจุระบบกันสั่นห้าแกน มาในตัวกล้องที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ระบบเลนส์ที่ออกแบบใหม่ช่วยให้ถ่ายภาพได้คุณภาพสูง ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้ทุกสภาวะอากาศ
“ปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องถ่ายรูปค่อนข้างทรงตัวเนื่องมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกหรือสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการบริโภคภายในประเทศ แต่โอลิมปัสมั่นใจว่าตลาดจะกระเตื้องขึ้นในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคมีความเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น และอำนาจในการจับจ่ายเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เซกเมนต์หลักทั้ง 2 เซกเมนต์ของตลาดกล้อง ทั้งคอมแพ็กและดีเอสแอลอาร์ ก็น่าจะกลับมาคึกคักขึ้นหลังจากที่ค่อนข้างซบเซาในปีที่แล้ว”
ขณะที่ช่วงเวลาก่อนปิดปีงบประมาณ (เมษายน-มีนาคม) โอลิมปัสมีส่วนแบ่งกล้องมิเรอร์เลสอยู่ที่ 25% จากสัดส่วนกล้องมิเรอร์เลสกว่า 40% ของตลาดรวมกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ทั้งหมดที่1.4-1.5 แสนเครื่อง โดยเชื่อว่าสัดส่วนตลาดกล้องมิเรอร์เลส จะมีสัดส่วนที่กินตลาดกล้อง DSLR เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตลาดรวมของกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้จะยังคงจำนวนเท่าเดิมก็ตาม ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ทุกปี
สำหรับปีนี้โอลิมปัสได้เตรียมงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เพื่อทุ่มด้านการตลาดและการสื่อสาร ทั้งแบบ below the line และ above the line เพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคไทยจดจำ โดยกิจกรรมทางการตลาดจะเน้นเวิร์กชอป เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำของตลาดไว้ให้ได้
“OM-D E-M5 Mark II จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันยอดขายของโอลิมปัสในส่วนของกล้องเลนส์ชนิดเปลี่ยนได้ให้เพิ่มขึ้น 2-3% ก่อนสิ้นปีงบประมาณ (เมษายน-มีนาคม) โดยจะเน้นแคมเปญทางการตลาดมากขึ้นและจะทยอยเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง”
OM-D E-M5 Mark II มาพร้อมระบบกันสั่นห้าแกนในตัวเครื่อง มีประสิทธิภาพในการชดเชยแสงเทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์ 5 สต็อป ให้ถ่ายรูปได้คมชัดในทุกสถานที่ และมีระบบ FAST AF และ C-AF ช่วยให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ tracking ได้โดยการโฟกัสจะเคลื่อนตามวัตถุโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเลนส์รุ่นใหม่ในประเภท M.ZUIKO PRO คือรุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO เป็นครั้งแรกกับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่มาพร้อมกับเลนส์ฟิชอายไวแสงพิเศษ F1.8 หนึ่งในเลนส์ตระกูล M.ZUIKO PRO รองรับการใช้งานระดับมืออาชีพ ด้วยชิ้นแก้วพิเศษคุณภาพสูงที่ถ่ายทอดแสงอย่างเที่ยงตรง คุณภาพการใช้งานที่เป็นเลิศในทุกสถานการณ์
และอีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวพร้อมกันคือ M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II (28-300mm, 35mm equivalent) ออกแบบต่อยอดมาจาก M.Zuiko Digital ED 14-150mm f4.0-5.6 เวอร์ชันแรก ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 นำมาเพิ่มเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์ด้วย ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) เพื่อให้เห็นภาพเสมือนจริง ลดเงาสะท้อนที่ก่อให้เกิดแสงแฟลร์และภาพเงาต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพในการกันฝุ่นและกันละอองน้ำเทียบเท่ากล้อง OM-D E-M1 และ E-M5 Mark II
พร้อมกันนี้โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1 เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการถ่ายภาพลักษณะต่อเนื่องสูงสุด 9 ภาพต่อวินาที เมื่อใช้งานร่วมกับการโฟกัสติดตามวัตถุแบบพิเศษ AF Tracking เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวได้โดยไม่พลาดช็อตสําคัญ จากการพัฒนาเซนเซอร์ Phase-Detection AF ทําให้เวอร์ชั่น 3.0 สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวแบบออโต้โฟกัสได้คมชัดทั้งเลนส์ระบบ Four Thirds และ Micro Four Thirds
ทั้งนี้ OM-D E-M5 Mark II พร้อมวางจำหน่ายปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2558 โดยตัวกล้องจะมีสีให้เลือก 2 สี (เทา/ดํา) ราคาบอดี้ 37,990 บาท ชุดพร้อมเลนส์ 12-50mm EZ lens kit Body (ดํา/เทา) + M.ZUIKO DIGITAL ED 12-50mm f3.5- 6.3 EZ ราคา 44,990 บาท ชุดพร้อมเลนส์ 14-150mm II lens kit Body (ดํา/เทา) + M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II ราคา 54,990 บาท (วางจำหน่ายเดือนมีนาคม) และชุดพร้อมเลนส์ 12-40mm lens kit Body (ดํา/เทา) + M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm f2.8 PRO วางจำหน่ายที่ราคา 64,990 บาท
ขณะที่เลนส์ M.ZUIKO DIGITAL ED 14 - 150mm f4.0-5.6 II จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2558 ด้วยราคา 26,990 บาท และเลนส์ M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO (สีดํา) ที่จะเริ่มวางจำหน่ายและเผยราคาให้ทราบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 อีกครั้ง
Company Relate Link :
Olympus
CyberBiz Social