Priceza.com เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาเตรียมจัดกิจกรรมลดแลกแจกแถมครั้งใหญ่ หวังกระตุ้นการซื้อขายผ่านเว็บให้ยอดเข้าเลือกชมสินค้าทั้งปีทะลุ 40 ล้านครั้ง สร้างยอดซื้อขาย 1,200 ล้านบาท เผยปัจจุบันพฤติกรรมคนไทยเริ่มหันมาชอปปิ้งผ่านมือถือมากขึ้น และมีสัดส่วนสูงกว่าเดกส์ท็อปแล้ว ส่วนปัญหาด้านการจ่ายเงินออนไลน์นั้นขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายแก้ไขด้วยการจ่ายเงินสดที่ปลายทาง ส่วนการบุกตลาดต่างประเทศซึ่งไปได้ดีในอินโดนีเซียแล้ว ยังเล็ง มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์
นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Priceza.com บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด กล่าวว่า Priceza.com เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา ซึ่งขณะนี้กำลังก้าวสู่ปีที่ 5 แล้ว จากปัจจุบันมีจำนวนคนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าเดือนละมากกว่า 4 ล้านคน และมีผู้เข้าชมสินค้าบน Priceza ในปีที่ผ่านมา รวม 30 ล้านครั้ง มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนในปีนี้คาดว่าน่าจะมีผู้เข้าชมสินค้ามากกว่า 40 ล้านครั้ง และมีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งล่าสุด ได้เตรียมจัดงาน Priceza Grand Sale เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และกระตุ้นธุรกิจ E-Commerce ของไทยให้มีสีสันมากขึ้น
www.Priceza.com เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ซึ่งในปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 1,600,000 รายการ มี 5,000 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านค้าย่อย SME 95% ส่วนอีก 5% ร้านค้ารายใหญ่ และร้านค้าแบบตลาดกลาง (Market Place) เช่น Central Online, The MALL (MglobeMall), 7-11 (ShopAt7), iTrueMart, HomePro (DirecttoShop), TheOutlet24, Zalora, GoodChoiz (พันธวณิช), Rakuten TARAD.com และ WeloveShopping.com
ปัจจุบัน มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 11 ล้านเพจวิวต่อเดือน โดยเป็นลูกค้าที่เข้ามาเป็นประจำประมาณ 52% และเป็นลูกค้าใหม่ถึง 48% ส่วนสินค้าที่มีการหาซื้อกันทางออนไลน์มากที่สุด คือ สินค้าประเภท IT และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีสัดส่วนถึง 60% ส่วนอีก 40% คือ สินค้าประเภทแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง
“ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้คนไทยชอปออนไลน์ คือ สามารถเปรียบเทียบสินค้าและราคาได้ง่าย ช่วยให้ประหยัดเงิน และชอปตอนไหนที่ไหนก็ได้ ส่วนปัญหาทางด้านการชำระเงินผ่านออนไลน์ที่เคยเป็นปัญหานั้น ขณะนี้ร้านค้าออนไลน์ได้เริ่มปรับตัวด้วยการให้ชำระเงินสดปลายทางตอนรับสินค้า (Cash on Delivery) คือ รับสินค้าแล้วจ่ายเงินสดกับคนที่มาส่งเลย เช่น Lazada, Zalora, iTrueMart, Cdiscount ทำให้ผู้ซื้อเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น”
นายธนาวัฒน์ กล่าวว่า ในปัจจุบันพฤติกรรมด้านการจับจ่ายสินค้าออนไลน์ของคนไทยเริ่มหันมาชอปผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสถิติของ Priceza พบว่า ในเดือนสิงหาคม 2557 เป็นครั้งแรกที่จำนวนคนเข้ามา Priceza จากโทรศัพท์มือถือมากกว่าจำนวนคนที่เข้ามาผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊ก โดยมีสัดส่วนเป็นโทรศัพท์มือถือ 46% คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 44% และแท็บเล็ต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่สัดส่วนของการใช้งานมือถือยังคงมีเพียง 30%
สำหรับเทรนด์การแข่งขันออนไลน์นับจากนี้น่าจะเป็นการแข่งขันกันในเรื่องของราคาสินค้า ร้านค้ายังพยายามแข่งกันที่ความน่าเชื่อถือ และบริการต่างๆ เช่น จัดส่งฟรี รับประกันคืนเงินภายใน 30วัน หรือรับประกันสินค้า สามารถส่งคืนสินค้าได้ภายใน 1 ปี เป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์ทางด้านการตลาดของ Priceza.com นั้นจะครอบคลุมทั้งการรุกไปยัง end-user และกลุ่มลูกค้าที่เป็นร้านค้า
นายธนาวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา Priceza.com ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายประเภท ทั้งเดสก์ท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยใช้เทคโนโลยี Responsive Design ระบบ PricezaBot ที่เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเองโดยทีมงาน Priceza ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลสินค้า และรายละเอียดของสินค้าจากเว็บไซต์ต่างๆ โดยระบบจะทำการอัปเดตรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของสินค้าโดยอัตโนมัติทุกวัน ส่งรายงานการทำงานอัตโนมัติ และได้เตรียมการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยเปรียบเทียบความพึงพอใจในการซื้อขายของแต่ละร้านค้าในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาได้มีบริษัททุนญี่ปุ่น CyberAgent Ventures (CAV) เป็นบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ลงทุนในธุรกิจ Internet & Ecommerce ในหลายๆ ประเทศ เข้ามาถือหุ้น และร่วมลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท ทำให้ Priceza.com ขยายตัว และเปิดเว็บไซต์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในชื่อ www.Priceza.co.id เนื่องจากมองว่าตลาดอินโดนีเซีย เป็นตลาดใหญกว่าไทยถึง 3 เท่า ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจเป็นอย่างมาก
สำหรับเว็บไซต์ของอินโดนีเซียนั้น ขณะนี้มีสินค้ามากกว่า 2 ล้านรายการ มีจำนวนร้านค้า 5,000 ร้านค้า มีผู้เข้าใช้บริการเดือนละมากกว่า 600,000 ราย โดยคาดว่าทั้งปี 2557 จะมีผู้ใช้บริการกว่า 6 ล้านราย และติด Top3 เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่นี่ ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจที่ประเทศไทยสามารถเข้าไปเจาะตลาดได้ ส่วนในตลาดอาเซียน นอกเหนือจากประเทศอินโดนีเซียแล้ว Priceza.com ยังได้มองไปที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์