แทนเจอรีนเผยเตรียมรุกการให้บริการคลาวด์ด้วย Google Apps for Business อย่างเต็มรูปแบบ หลังพบผู้บริโภคเริ่มเข้าใจการใช้งานและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ชี้ปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตแค่ 10% ลดลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีการเติบโตถึง 90% เหตุการทำงานของหน่วยงานราชการหยุดชะงักและยังไม่มีโครงการใหญ่ๆ เข้ามา เตรียมดันยอดแอ็กเคานต์ยูสเซอร์เพิ่มจาก 30,000 เป็น 50,000 รายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกูเกิลเป็น 15% จากเดิมอยู่ที่ 10%
นายเจริญชัย วงศ์ปิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แทนเจอรีน จำกัด ผู้ให้บริการ Total IT Solution Provider กล่าวว่า กลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นการให้บริการคลาวด์มากขึ้น เนื่องจากมองเห็นว่า 3 เทรนด์หลักสำคัญอย่าง 1. คลาวด์ 2. โมบิลิตี และ3. ซีเคียวริตี ได้กลายเป็นเรื่องที่โดดเด่นอย่างมาก ประกอบกับผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มเข้าใจถึงการใช้งานคลาวด์กันแล้ว ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวจะอาศัยความเป็นคู่ค้าของ Google Enterprise Partner ในการเข้ามาทำการตลาดวางแผนและอิมพลีเมนต์ Google Apps for Business ให้บริษัทที่ต้องการใช้งานคลาวด์แบบปลอดภัย
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาแทนเจอรีนมีรายได้รวม 700 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำรายได้ประมาณ 370 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากการเพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อสร้างโอกาสในการขาย รวมไปถึงมีโครงการใหญ่ๆ เข้ามาพร้อมๆ กัน ส่วนปีนี้คาดว่าจะโตประมาณ 10-20% เนื่องจากติดสถานการณ์ทางการเมือง โดยสัดส่วนการทำตลาดภาครัฐและเอกชนจากเดิมอยู่ที่ 50:50 จะเปลี่ยนแปลงไป โดยภาคเอกชนจะมีสัดส่วนมากกว่าในปีนี้
“เทคโนโลยีคลาวด์จะเป็นทางออกที่สำคัญในการฝ่าสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เนื่องจากผู้ใช้จะสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งแม้ในไตรมาสแรกแทนเจอรีนจะสามารถสร้างรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่บริษัทฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ไว้ล่วงหน้าด้วย โดยได้มีการหาตลาดใหม่ๆ เช่น กลุ่มธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะเฮลท์แคร์ ที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องและเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตเป็นอย่างดี”
นายเจริญชัยกล่าวว่า นอกเหนือไปจากการหาตลาดใหม่แล้วแทนเจอรีนยังได้ทำการเพิ่มเซลส์และพนักงานฝ่ายเทคนิคเพื่อดูแลและให้บริการทั้งลูกค้ารายใหม่และเก่า เพื่อดึงให้ลูกค้าเดิมยังคงใช้บริการเราอยู่ เนื่องจากเรามีการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันแทนเจอรีนให้บริการโซลูชันไอทีแบบครบวงจรที่ทำร่วมกับคู่ค้าปัจจุบัน อันประกอบด้วย Google, VMware, EMC, Cisco แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ Cloud Solution, Information Infrastructure Solution และ Network Solution
โดยบริการคลาวด์ที่จะมุ่งเน้นให้มากขึ้นนี้จะสามารถทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริการของกูเกิลเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิมอยู่ที่ 10% ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมโปรแกรมเพื่อรุกตลาดคลาวด์ไว้พร้อมแล้ว ปัจจุบันแทนเจอรีนมีจำนวนแอ็กเคานต์ยูสเซอร์ของ Google Apps for Business ประมาณ 30,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้เกินกว่า 50,000 ราย ในสิ้นปีนี้
“บริการคลาวด์ Google สำหรับเอนเตอร์ไพรส์ประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์หลัก คือ Google Apps for Business เป็นระบบอีเมลบนระบบคลาวด์ ต่อมาคือ Google Search Appliance เป็นฮาร์ดเเวร์สำเร็จรูปสำหรับการค้นหาข้อมูลภายในองค์กรทั้งหมด และท้ายสุดเป็น Google Maps for Business ซึ่งเป็นโซลูชันที่นำข้อมูลผ่านมุมมองบนแผนที่สามารถมาปรับใช้ให้เข้ากับองค์กรธุรกิจได้อย่างดี”
ด้านนางสาวกัลยาณี วรฉัตร ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ Google Enterprise กล่าวว่า กูเกิลให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับแรกๆ ดังนั้นข้อมูลของผู้ใช้งานจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้คนนั้นเท่านั้น และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีระบบกรอง Spam mail ซึ่งนอกจากนี้การใช้บริการกูเกิลยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และช่วยให้เจ้าหน้าที่บริหารและดูแลระบบงานเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องกังวลการอัปเดตหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่
Company Related Link :
Tangerine
CyberBiz Social