xs
xsm
sm
md
lg

ทวิตเตอร์สั่งจับตาย ‘Third-Party Clients’ (CyberTalk)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เป็นข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่งในหน้าข่าวไอทีเลยก็ว่าได้ สำหรับการที่ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง ประกาศตัดช่องทางของบรรดาแอปพลิเคชันที่เป็น ‘Third-Party Clients’ หรือแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนามาจากกลุ่มนักพัฒนาอิสระ แล้วใช้บริการ API ของทวิตเตอร์

จากการประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการของทวิตเตอร์ ที่ทำให้วงการผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอิสระของทวิตเตอร์ หรือที่เรียกว่า Third-Party Clients รวมถึงกลุ่มผู้ใช้งานทวิตเตอร์ทั่วไป ถึงกับต้องสะดุ้งเป็นทิวแถว โดยการประกาศระบุว่า ทวิตเตอร์จะเริ่มต้นนโยบายจำกัดการเชื่อมต่อระหว่างบรรดาแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อทวิตเตอร์ (API) ให้มีอย่างจำนวนจำกัด

โดยปกติแล้วบรรดาแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ต่างๆ ผู้ใช้งาน ที่ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ แบล็กเบอรี่ หรือเครื่องพีซี โน้ตบุ๊ก สามารถโหลดไคลเอนท์เหล่านี้มาใช้งานได้อย่างอิสระ แต่หลักใหญ่ใจความในนโยบายใหม่นี้ ทำให้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ อาจต้องเปลี่ยนแปลงไป ทวิตเตอร์ กำลังจะเริ่มจำกัดขอบเขตของการเชื่อมต่อ API จากไคลเอนท์ต่างๆ ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยจะอนุญาติให้บรรดาแอปพลิเคชันต่างๆ สามารถมีผู้ใช้งานได้แค่ 1 แสนราย แต่ถ้าแอปฯใด ที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักโดยกว้างแล้ว จะได้รับอนุญาตให้มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มได้อีก 1 เท่าตัว หรือจำนวน 2 แสนคนนั้นเอง แต่จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไป

ทั้งนี้ด้วยนโยบายใหม่ของทวิตเตอร์ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ทวิตเตอร์ต้องการปิดกั้นช่องทางการเติบโตของบรรดาแอปพลิเคชันชื่อดัง อาทิ Tweetbot, Twicca รวมไปถึง Twitterrific

และเมื่อช่องทางของบรรดาแอปฯชื่อดังถูกหั่นออกไป จะเป็นโอกาสอันดีที่ทวิตเตอร์จะได้ฉวยโอกาสนี้ ในการนำเสนอแอปพลิเคชันที่ทวิตเตอร์เป็นผู้พัฒนาเองโดยตรง (รวมไปถึงที่ซื้อมาเป็นเจ้าของ) ทั้ง Twitter for iPhone, Twitter for BlackBerry, Twitter for Android และ TweetDeck เพื่อมีไว้เป็นช่องทางในการหารายได้เข้าบริษัท

ปัจจุบันรายได้ของทวิตเตอร์ จะมาจากโฆษณาเป็นหลัก แต่ตัวเลขของการโฆษณาผ่านทวิตเตอร์นั้น แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัด แต่ตัวเลขรายรับนั้นห่างไกลหลายล้านปีแสง ถ้าหากเทียบกับเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า หลังจากนี้แอปพลิเคชันของทวิตเตอร์อาจจะมีการฝังโฆษณาแฝงไว้ในแอปฯ ก็เป็นได้

แน่นอนว่าการที่ทวิตเตอร์เลือกใช้ไม้แข็งในการประกาศนโยบายใหม่ ย่อมสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาเหล่านักพัฒนา และกลุ่มผู้ใช้งานทวิตเตอร์อย่างแน่อน

แน่นอนว่าการที่ทวิตเตอร์เล่นไม้แข็ง ในการประกาศนโยบายใหม่ในครั้งนี้ ย่อมสร้างความไม่พอใจให้แก่บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันทวิตเตอร์อื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าแอปทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการนั้น ไม่มีหน้าตาที่ดึงดูดการใช้งานได้ดีเพียงพอ ระบบการทำงานที่ค่อนข้างช้า รวมไปถึงแอปทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการนั้น ไม่มีฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจเหมือน ไคลเอนท์อื่นๆ เช่นฟีเจอร์ mute สำหรับกรณีที่ผู้ใช้ไม่ต้องการที่จะอ่านทวีตของผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม unfollow

นอกจากนี้ดูเหมือนว่าไม้แข็งที่ทวิตเตอร์หยิบยกมาใช้ในเวลานี้ ดูจะไม่ถูกต้องแล้ว ยังไม่ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย เพราะเวลานี้ทวิตเตอร์ กำลังเจอกับความท้าทายครั้งใหม่ ในการแย่งชิงฐานผู้ใช้งานในบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่มีรุกกี้มือใหม่ไฟแรงอย่าง App.net ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหมือนกับทวิตเตอร์ แต่ต่างกันเพียงแค่ว่า App.net จะเป็นบริการที่ปฏิเสธการโฆษณาอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากผู้ใช้ที่ต้องการใช้บริการนี้ จะต้องเสียค่าบริการเริ่มต้นที่ 50 เหรียญฯก่อนนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น