เมื่อตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เริ่มมองไม่เห็นทางไปต่อจนได้แต่รอระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่างแบล็กเบอร์รี 10 ริม จึงพยายามเจาะเข้าไปในตลาดผู้ที่ต้องการความสามารถเฉพาะตัวของสมาร์ทโฟน ในราคาที่จับต้องได้ แถมท้ายด้วยการใส่ฟีเจอร์ตามความเรียกร้องของผู้บริโภคอย่างวิทยุเอฟเอ็ม เข้ามาในแบล็กเบอร์รี เคิร์ฟ 2 รุ่นใหม่อย่าง 9220 และ 9320
ความแตกต่างระหว่าง 9320 ที่จะพูดถึงและ 9220 มีเพียงจุดเดียวหลักๆคือรุ่นแรกรองรับการเชื่อมต่อ 3G ในขณะที่รุ่นหลังรองรับแค่ 2G (EDGE) ขณะที่ตัวเครื่องก็พยายามดึงจุดเด่นของ BBM ให้กลายออกมาเป็นปุ่มลัดให้กดเข้าถึงได้ง่าย และแน่นอนว่าทั้งสองรุ่นถือว่าทำมาจับตลาดผู้ใช้งานในต่างจังหวัด ซึ่งยังมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่องตามคำบอกเล่าของริม
การออกแบบและสเปก
ในส่วนของการออกแบบตัวเครื่องตระกูลเคิร์ฟ (Curve) ริม ยังคงยึดถือรูปลักษณ์ที่ไม่แตกต่างจากเดิม ในรูปทรงของสมาร์ทโฟนทรง QWERTY โดยใช้วัสดุหลักเป็นพลาสติกคุณภาพสูง ขนาดเครื่องอยู่ที่ 109 x 60 x 12.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 103 กรัม
และแม้ว่าจะมากับระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี 7.1 แต่หน้าจอยังไม่เป็นระบบสัมผัส โดยใช้หน้าจอขนาด 2.44 นิ้ว ความละเอียด qVGA (320 x 240 พิกเซล) ส่วนบนหน้าจอมีช่องลำโพงสนทนา และโล้โก้แบล็กเบอร์รีพาดอยู่กึ่งกลาง โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้า และไฟแสดงสถานะอยู่เคียงข้าง
ใต้หน้าจอเป็นปุ่มควบคุมหลัก 5 ปุ่มไล่ตั้งแต่ปุ่มรับสาย เมนู ออปติคัลแทร็กแพด 5 ทิศทาง ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มวางสาย โดยมีปุ่มคีย์บอร์ด QWERTY แบบเม็ดข้าวโพด ซึ่งถือว่าค่อนข้างเล็กสำหรับผู้ใช้งานที่มีนิ้วใหญ่ ทำให้เวลาใช้งานต่อเนื่องนานๆแล้วเมื่อยกว่ารุ่นพี่อย่างโบลด์
ด้านหลังเครื่องใช้ฝาหลังเป็นพลาสติกแบบเงาแกะออกด้วยการงัดจากใต้ตัวเครื่อง โดยมีสัญลักษณ์แบล็กเบอร์รีสีเงินอยู่กึ่งกลางบน โดยมีชื่อรุ่นกล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชติดอยู่ที่ขอบบน เมื่อเปิดออกมาจะพบกับแบตเตอรีขนาด 1,450 mAh ช่องใส่ซิมการ์ด และไมโครเอสดีการ์ด
ความพิเศษที่ริมพยายามชูจุดเด่นให้ทั้ง 2 รุ่นใหม่ที่ออกมาคือปุ่ม BBM ที่อยู่ทางซ้าย รวมกับช่องเสียบสายชาร์จแบบไมโครยูเอสบี และที่ร้อยสายห้อยโทรศัพท์ ซึ่งแต่เดิมคือปุ่มลัดที่ผู้ใช้สามารถตั้งเพื่อเรียกการใช้งานแอปพลิเคชันของตัวเครื่องได้ทันที อย่างไรก็ตามแม้ริมกำหนดให้ปุ่มนี้เป็นปุ่มสำหรับ BBM แต่ผู้ใช้ก็สามารถเข้าไปตั้งใหม่ได้ในส่วนของตั้งค่าเช่นเดิม
ด้านขวา มีปุ่มปรับระดับเสียงที่ตรงกลางมีปุ่มเล็กๆสำหรับกดเล่นและหยุดมัลติมีเดีย ถัดลงมาเป็นปุ่มเรียกใช้งานโหมดกล้องที่ใช้เป็นชัตเตอร์ได้ด้วย
บนเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดหน้าจอ พร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. โดยจากเดิมจุดนี้ของเคิร์ฟจะเป็นคล้ายปุ่มยาง แต่น่าจะมีการอัปเดตมาจากรุ่นพี่อย่างโบลด์ 9900 ที่เปลี่ยนปุ่มล็อกเครื่องเป็นลักษณะเดียวกัน ล่างเครื่องเป็นที่อยู่ของช่องลำโพง และไมโครโฟนสนทนา
สำหรับสเปกภายในของ แบล็กเบอร์รี เคิร์ฟ 9320 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี 7.1 หน่วยประมวลผลความเร็ว 800MHz หน่วยความจำสำรอง และหน่วยความจำภายใน 512 MB รองรับการเชื่อมต่อ 3G มีให้เลือกทั้งแบบ 900/1900/2100 MHz และ 850/1900/2100 MHz ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 7.2 Mbps อัปโหลดสูงสุด 5.76 Mbps ไวไฟมาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ 2.1 จีพีเอส และวิทยุFM
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ด้วยความที่ยังเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชัน 7.1 ความแตกต่างจากรุ่นพี่อย่างโบลด์ 9900 และ 9790 จึงแทบไม่มีนอกจากเรื่องของหน้าจอที่ไม่ใช่ระบบสัมผัส โดยหน้าจอหลักยังคงแบ่งสัดส่วนตามปกติของแบล็กเบอร์รีไม่ว่าจะเป็นการแสดงสถานะแบตเตอรี่ วันเวลาที่มุมซ้ายบน สถานะเครือข่ายการเชื่อมต่อไวไฟ เวลาที่กลางบน และสัญลักษณ์การเชื่อมต่อต่างๆที่มุมขวา โดยถัดลงมาหนึ่งบรรทัดเป็นแถบแจ้งเตือนที่สามารถเข้าไปปรับเสียง และค้นหาได้
ขณะที่ส่วนล่างเป็นที่อยู่ของแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดเรียงได้ตามลำดับความสำคัญเพื่อให้เรียกใช้งานได้สะดวก ขณะเดียวกันยังมีการแบ่งหมวดการแสดงผลนอกจากการแสดงผลทั้งหมด เป็นแอปฯโปรด มัลติมีเดีย ที่ดาวน์โหลดเพิ่ม และ ที่ใช้ประจำ ให้เลือกกันเช่นเดิม
ความโดดเด่นของรุ่นนี้ที่ชูออกมาเป็นพิเศษคือเรื่องของวิทยุFM ซึ่งแต่เดิมแบล็กเบอร์รีไม่เคยบรรจุความสามารถลงในสมาร์ทโฟนรุ่นใดเลย การใช้งานก็เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่นๆทั่วไปที่ต้องเสียบสายหูฟังเพื่อรับสัญญาณ สามารถบันทึกช่องที่ฟังบ่อยๆได้ตามปกติ แน่นอนว่าสามารถใช้เล่นผ่านลำโพงของตัวเครื่องได้
ในส่วนของการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ใน 7.1 ถือว่าตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วขึ้น สามารถซูมเข้าไปเพื่ออ่านเนื้อหาได้ แต่ทั้งนี้เนื่องจากหน้าจอมีขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถใช้ท่องเน็ตได้ลื่นไหลเหมือนสมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสรุ่นอื่นๆในตลาดอยู่ดี
อีกสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในโออส 7.1 อยู่ในจุดของการตั้งค่าการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นมาพิเศษคือ Mobile Hotspot ทำให้ผู้ใช้งานแบล็กเบอร์รีสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์พกพาอื่นๆผ่านไวไฟได้แล้ว จากเดิมที่ต้องเชื่อมต่อผ่านสายหรือบลูทูธเท่านั้น
ขณะที่การตั้งค่าอื่นๆก็ยังคงรูปแบบเดิมอยู่ภายใน Options อย่างการตั้งค่าเสียง การเชื่อมต่อ หน้าจอ การป้อนข้อมูล รายละเอียดตัวเครื่อง จัดการโหมดโทรศัพท์ ตั้งค่าความปลอดภัย ระบบช่วยเหลือ และเข้าไปจัดแอปพลิเคชันจากผู้ผลิตอื่นที่ดาวน์โหลดเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนปุ่มลัดทั้งฝั่งซ้ายและขวาของเครื่อง สามารถเข้าไปตั้งได้ในส่วนของ Convenince Keys โดยค่ามาตรฐานที่ตั้งมาให้จะเป็นปุ่มเรียกใช้งานกล้องทางฝั่งขวา และเรียกใช้งาน BBM ทางฝั่งซ้าย ส่วนการใช้งาน BBM ก็ยังไม่มีสิ่งใดแตกต่างจากเดิม
โหมดการใช้งานกล้องยังคงอินเตอร์เฟสแบบเดิม คือมีปุ่มชัตเตอร์หลักอยู่ตรงกลาง เลือกดูรูปจากมุมซ้ายสุด ถัดมาเป็นเลือกเปิดปิดระบบระบุพิกัด เปิดปิดแฟลช และเลือกโหมดการถ่ายภาพ อย่างตรวจจับใบหน้า ถ่ายรูปบุคคล กีฬา ทิวทัศ์ ปาตี้ ระยะใกล้ หิมะ ชายหาด กลางคืน และตัวอักษรเป็นต้น
การใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ก็สามารถทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแบล็กเบอร์รีเวิลด์มาติดตั้งเพื่อใช้งานได้ตามปกติ
หน้าจอการโทรศัพท์แสดงผลชื่อ เบอร์ ระยะเวลาที่ใช้สาย ระดับเสียง โดยมีให้เลือกว่าจะใช้งานผ่านหูฟัง ปิดเสียง พักสาย และประชุมสายได้ ขณะที่การโทรสามารถกดเบอร์โทรศัพท์ที่ปุ่มคีย์บอร์ดเพื่อหารายชื่อและสั่งโทรออกได้ทันที
จุดขาย
- ถือเป็นตัวอัปเกรดจากรุ่นเคิร์ฟ 9300 เดิม ที่เพิ่มฟีเจอร์อย่างวิทยุเอฟเอ็มเข้าไป และทำงานบน 7.1
- ราคาถูกปรับให้เหมาะกับสภาพตลาดมากขึ้น
- มากับความสามารถหลักอย่างการใช้งานอีเมล แชต โซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่นเดิม
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ไม่สามารถอัปเกรดไปใช้งานระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี 10 ได้
- ตัวเครื่องเป็นพลาสติกให้ความรู้สึกว่าตัวเครื่องบอบบาง
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
สาวกที่ยังติดใจกับความสามารถของแบล็กเบอร์รี และต้องการเปลี่ยนไปใช้งานรุ่นใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าหมื่น คงถือเป็นลูกค้าหลักของเคิร์ฟ 9320 ในเวลานี้ และเมื่อมีข่าวดีว่าแอปฯแชตอย่าง Line กำลังจะมีให้ใช้งานในแบล็กเบอร์รีด้วยแล้ว ตัวเครื่องอย่าง 9320 ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาและความสามารถ
แต่ทั้งนี้ทั้ง 9320 และ 9220 ที่ทางริมออกมาวางจำหน่าย ก็ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนแต่งบน้อย โดยรุ่นหนึ่งรองรับการใช้งาน 3G ขณะที่อีกรุ่นหนึ่งไม่รองรับ ถ้าผู้ใช้งานอยู่ในต่างจังหวัดที่ยังไม่มีวี่แววของ 3G การเลือกซื้อรุ่น 9220 ก็จะช่วยประหยัดเงินไปได้ไม่น้อย เพราะสนนราคาของ 9320 อยู่ที่ 8,490 บาท
Company Related Links :
RIM