เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักสมาร์ทโฟนนามกรแบล็กเบอรี่กันเป็นอย่างดี ที่เปิดตลาดประเทศไทยด้วยตระกูลเคิร์ฟ (Curve) และตระกูลโบลด์ (Bold) ก่อนที่จะมาเปิดตลาดที่เป็นทัชสกรีนอย่างตระกูลทอร์ช (Torch)
สำหรับประเทศไทยเราสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่คนไทยนิยมชมชอบในการใช้งานมากติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมาะสำหรับขาแช็ต รวมถึงระบบเมลที่เร็วทันใจ ซึ่งในประเทศไทยเราจะเห็นกลุ่มผู้ใช้งานตระกูล Bold และตระกูล Curve ค่อนข้างหนาตา
ซึ่งตระกูล Curve ถือว่าเป็นแบล็กเบอรี่ ที่ทางริมค่อนข้างคาดหวังในตลาดประเทศไทย เนื่องจากราคาของรุ่น Curve นั้นถือว่าเป็นราคาถูกที่สุดในกลุ่มแบล็กเบอรี่ อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้งานของแบล็กเบอรี่ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่นิยมการใช้งานแชต
และคราวนี้รุ่น Curve ก็กลับมาอีกครั้ง ในรูปโฉมใหม่ ส่วนจะไฉไลกว่าเดิมหรือไม่ ต้องตามอ่านจากรีวิว แบล็กเบอรี่ รุ่นนี้ Curve 9380
การออกแบบและสเปก
ในแง่การดีไซน์ของ Curve 9380 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแบล็กเบอรี่เลยก็ว่าได้ เนื่องจากปุ่มคีย์บอร์ด QWERTY อันเป็นเอกลักษณ์ถูกตัดออกไป เหลือไว้เฉพาะปุ่ม 4 ปุ่มแบบฟิสิคอล ก็คือปุ่มรับสาย-วางสาย ปุ่มแบล็กเบอรี่ ปุ่มย้อนกลับ และแทร็คแพด ส่วนการดีไซน์จะคล้ายกับ Torch 9830 พอสมควร
นอกเหนือจากนี้การใช้งาน จะสั่งการผ่านการทัชสกรีน (หรือจะใช้แทร็คแพดก็ตามสะดวก) ด้านบนสุดเป็นลำโพงสนทนา ข้างๆ เป็นไฟแอลอีดี พร้อมกับโลโก้แบล็กเบอรี่อันโดดเด่น งานประกอบเป็นพลาสติก
ด้านหน้า - มีปุ่มการใช้งานพื้นฐานอย่างที่บอกข้างต้น ปุ่มรับสาย-วางสาย ปุ่มแบล็กเบอรี่ แทร็คแพด ปุ่มย้อนกลับ ไม่มีกล้องหน้า และมีไฟแจ้งเตือนสถานะต่างๆ
ด้านหลัง - มาพร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช มีคำบอกว่ารุ่นนี้คือรุ่น Curve ถัดลงมาเป็นโลโก้แบล็กเบอรี่ ด้านล่างเป็นลำโพง
ด้านซ้าย - เป็นพอร์ทไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จประจุเครื่อง หรือโอนถ่ายข้อมูลลงเครื่องคอมพิวเตอร์
ด้านขวา - มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ตรงเป็นปุ่ม MUTE สำหรับปิดเสียง และมีปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพ หรือเป็นทางลัดเข้าสู่โหมดกล้อง
ด้านบน - เป็นส่วนของล็อคเครื่องหรือปลอดล็อคเครื่อง และช่องสำหรับเสียบหูฟัง
ด้านล่าง - ไม่มีอะไร
สำหรับสเปกของ Curve 9380 ประกอบไปด้วย หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว (188 ppi) RAM และหน่วยความจำเครื่องที่ 512MB ใช้ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่ OS 7 หน่วยประมวลผลกลาง 806MHz ส่วนแบตเตอรีเป็น JM-1 ขนาดประจุ 1230 mAh
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
NFC - หรือ Near Field Communication ที่เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แบล็กเบอรี่ นำมาใส่ไว้ตั้งแต่รุ่น Bold 9900 ที่เปิดตลาดด้วย OS 7 เป็นรุ่นแรก ความสามารถของ NFC คือการโอนถ่ายข้อมูลจำพวกภาพ เสียง หรือเว็บเบราว์เซอร์ ที่รวดเร็วกว่าการใช้งานบลูทูธ หรือการสแกนผ่าน QR Code ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำสิ่งๆ นี้มาใช้หรือไม่ ประการใด
BBM - จุดขายตลอดกาลสำหรับสาวกแบล็กเบอรี่ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การใช้งานในเรื่องของแชตยังคงนำหน้าเสมอ และบีบีเอ็มก็ยังคงยืนหยัดความเป็นเบอร์ 1 ได้ตลอดเสมอมา แม้ว่าจะมีนักพัฒนาพยายามนำเสนอแอปพลิเคชันประเภทแชต เพื่อหวังฆ่า BBM แต่ก็ยังไม่สำเร็จซะทีเดียว
คีย์บอร์ด - โดยทั่วไปแล้วแบล็กเบอรี่จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่เป็นแบบฮาร์ดคีย์บอร์ด (QWERTY) แต่ใน Curve 9380 โดนตัดออกไป ดังนั้นการป้อนข้อมูลจะต้องทำผ่านการทัชสกรีน ส่วนคีย์บอร์ดที่เป็นคีย์บอร์ดจำลองนี้ การวางเลย์เอาต์ของพยัญชนะจะไม่เหมือนกับ QWERTY มากนัก ดังนั้นมือใหม่ หรือคนที่ชินกับคีย์บอร์ด QWERTY อาจจะใช้งานยากสักหน่อย อีกทั้งหน้าจอของ Curve 9380 ค่อนข้างเล็ก คนที่มือใหญ่ นิ้วใหญ่ ก็อาจลำบากเพิ่มอีกนิดนึง
โทรศัพท์ - ไม่มีอะไรแตกต่างมาก ข้อดีคือปุ่มกดตัวเลขที่ค่อนข้างใหญ่ ส่วนแท็บอีก 2 แท็บด้านบนประกอบด้วยบันทึกการโทรเข้า-รับสาย และสมุดโทรศัพท์
การแจ้งเตือน - เหมือนกันแบล็กเบอรี่รุ่นก่อนๆ คือจะบอกทั้งอีเมล บรรดาเครือข่ายสังคมออนไลน์ รวมไปถึงแชตว่ามีใครส่งข้อความแชตมาหาผู้ใช้บ้าง
อีเมล - การพุช (Push) ข้อความอีเมลของแบล็กเบอรี่ยังคงเป็นจุดขายอยู่ โดยเฉพาะสำหรับบรรดานักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องใช้งานด้านอีเมลเป็นหลัก ส่วนนี้ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
โซเชียล - เป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วที่สมาร์ทโฟนทุกรุ่นจะต้องมีฟีเจอร์ หรือแอปพลิเคชันสำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้งทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก ใน Curve 9380 ก็เช่นกัน ซึ่งจะมีส่วนของการแสดงฟีดต่างๆ
เว็บ เบราว์เซอร์ - นับตั้งแต่แบล็กเบอรี่เปิดตัวระบบปฏิบัติการ OS 7 การใช้งานด้านเว็บ เบราว์เซอร์ ถือว่าพัฒนาขึ้นได้อย่างได้ชัด แม้ว่าถ้าหากเทียบกับเว็บ เบราว์เซอร์จากโอเอส อื่นๆ การใช้งานอาจจะเทียบความเก๋าลำบาก แต่ถึงกระนั้นผู้ใช้บีบี ก็สามารถดูเว็บไซต์ต่างๆ ลื่นไหลขึ้น แต่รุ่นนี้การใช้งานเบราว์เซอร์ไม่สามารถเล่นแฟลชได้
Twitter + Facebook - นอกจากจะมี Social แยกมาให้ต่างหาก ก็จะมีแอปพลิเคชันจากผู้พัฒนามาใช้อีกด้วย
แผนที่ - การใช้งานส่วนของแผนที่จะเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่สามารถค้นหาแผนที่ได้ รวมถึงแสดงพิกัดว่าขณะนี้ผู้ใช้กำลังอยู่สถานที่แห่งหนใด รวมถึงความสามารถในการบอกเส้นทางการเดินทางอีกด้วย
กล้อง - คุณภาพของภาพที่ถ่ายออกมา ถือว่าสอบผ่านเลย สีที่ให้ค่อนข้างสดใส แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ใช่รุ่นไฮเอนด์ของแบล็กเบอรี่ก็ตาม อีกทั้งความเร็วในการชัตเตอร์ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้เลยทีเดียว
จุดขายของรุ่นนี้
สำหรับจุดขายของแบล็กเบอรี่รุ่นนี้ ถ้าหากจะวัดที่ตัวฟีเจอร์ มองว่าไม่ค่อยมีอะไรที่โดดเด่น หรือแปลกแหวกแนวชวนให้น่าตกใจมากนัก โดยยังคงเน้นจุดขายเดิม เรื่องของการแชต บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ก เสียมากกว่า ขณะเดียวกันบริการ NFC เอง ก็ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานอย่างกว้างขวาง และรูปแบบการใช้งานก็ค่อนข้างจำกัด ดังนั้น จุดขายของรุ่นนี้ จะเป็นเรื่องของราคาค่างวด ที่เปิดตัวในราคา 10,900 บาท ซึ่งเป็นราคาปานกลาง โดยเน้นไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลาง หรือในราคาที่ไม่แพงเกินไปจนเอื้อมไปคว้าไม่ถึง
ตอบโจทย์ได้หรือไม่
สำหรับการที่จะบอกว่าแบล็กเบอรี่่รุ่นนี้ จะตอบโจทย์ได้หรือไม่นั้น คงต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ว่าจะมองรุ่นนี้ในตำแหน่งใด ถ้ามองในกลุ่มผู้ใช้ที่ใช้ตระกูล Curve อยู่แล้ว การอัปเกรดเครื่องมาเป็น 9380 ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดี สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนมือถือใหม่ แต่ไม่อยากเสียเงินจำนวนมากไปกับการอัปเกรดเป็นรุ่น Bold หรือ Torch
แต่สำหรับผู้ที่ใช้แบล็กเบอรี่ตระกูล Bold หรือ Torch อยู่แล้ว การลงมาเล่นในตลาด Curve อาจจะไม่ค่อยเหมาะนัก เนื่องจากตัวบอดี้ของเครื่องไม่ได้ใช้วัสดุที่คุณภาพสูงปรี๊ดเหมือน Bold และ Torch อีกทั้งคนที่ใช้งาน Bold และ Torch มาก่อน ถ้าลองใช้ Curve 9380 จะดูออกเลยว่าการสัมผัสและการตอบสนองยังสู้ 2 รุ่นข้างต้นไม่ได้
ทั้งนี้หากนับรวมกลุ่มคนที่มีโทรศัพท์ไว้ใช้งาน 2 เครื่อง โดยใช้ Curve 9380 เป็นเครื่องที่ 2 สำหรับใช้งานแชตกับเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ใช้แบล็กเบอรี่ หรือไว้ใช้ในการโต้ตอบอีเมล ก็เป็นทางออกที่ดีเลยทีเดียว หรือจะเปลี่ยนมาใช้ Curve 9380 เป็นมือถือเครื่องหลัก แล้วใช้มือถือฟีเจอร์โฟน หรือรุ่นใดก็ตามแต่เป็นเครื่องรองก็เป็นหนึ่งในทางออกที่เหมาะสมไม่แพ้กัน
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่เสียไป
ถ้าหากคุณยังคงต้องการที่จะใช้แบล็กเบอรี่ต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้แบล็กเบอรี่ตระกูล Curve ต้องการที่จะใช้งาน OS 7 นี่คือทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณเป็นกลุ่มคนที่ใช้มือถือแบล็กเบอรี่ตระกูล Bold และ Torch อยู่ก่อนแล้ว อาจจะผิดหวังเล็กๆ ที่การใช้งานยังไม่ลื่นไหลเท่ารุ่นพี่ทั้ง 2 ตระกูล รวมถึงวัสดุประกอบงานค่อนข้างธรรมดา
อย่างไรก็ตามถ้าผู้ใช้ยังไม่อยากหย่าขาดกับความรู้สึกที่เคยมีให้กับคีย์บอร์ด QWERTY แล้วหันมาใช้ทัชสกรีนเต็มตัว การใช้แบล็กเบอรี่รุ่นที่ยังมีคีย์บอร์ด QWERTY ก็น่าจะให้ความรู้สึกที่ฟีล กู้ด กว่า
แต่ถ้าหากผู้ใช้พร้่อมที่จะเปลี่ยนแปลงตามแบล็กเบอรี่ ก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เพราะฟีเจอร์อันโดดเด่นก็ยังอยู่ครบ แถมเพิ่มความสามารถในการเล่นเว็บที่ดีขึ้น โอเอสที่เสถียรกว่าเดิม อินเตอร์เฟสที่เจ๋งกว่าโอเอสเก่าๆ เมื่อพร้อมแล้วก็กำเงินแล้วยื่นสิิทธิ์ความเป็นเจ้าของได้เลยครับ
Company Related Link :
RIM-BlackBerry
