xs
xsm
sm
md
lg

พญามังกร ผงาดตลาดมือถือไทย !?! (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงปีที่ผ่านมาในตลาดสมาร์ทโฟนนอกจากค่ายใหญ่จากแดนโสม แล้ว 2 พญามังกรจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างแซตทีอี และหัวเว่ย ถือเป็น 2 ผู้เล่นที่สร้างความคึกคักและสีสันในตลาดสมาร์ทโฟนโลกอย่างมาก

ทั้งจากผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาซึ่งแซตทีอี ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ในตลาดโทรศัพท์มือถือโลก จากยอดขายกว่า 17.7 ล้านเครื่องขณะที่ถ้ามองเป็นตลาดสมาร์ทโฟนจะอยู่ในอันดับ 5 ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 5.2% หรือเป็นจำนวนราว 8 ล้านเครื่องรองจากซัมซุง แอปเปิล โนเกีย และเอชทีซี

ขณะเดียวกันด้านหัวเว่ยเองก็ระบุถึงเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 60 ล้านเครื่องทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งจำหน่ายได้ 20 ล้านเครื่องถึง 3 เท่า และจะขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกให้ได้ภายในปี 2558

สิ่งที่ทำให้หัวเว่ยถูกจับตามองในเวลานี้ เนื่องจากในฝั่งของตลาดอุปกรณ์โทรคมหัวเว่ย เพิ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในตลาดโลกเหนืออีริคสัน ส่งผลให้กลายเป็นแบรนด์หลักในตลาดโทรคมอย่างแท้จริง

การตั้งเป้าหมายที่จะแสดงศักยภาพของการจำหน่ายสมาร์ทโฟนทำให้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะปัจจุบันหัวเว่ย ดีไวส์ ในส่วนของอุปกรณ์สมาร์ทโฟน และแอร์การ์ด มีสัดส่วนรายได้เป็น 30% ของหัวเว่ยแล้ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าฐานลูกค้าซึ่งเป็นประชากรชาวจีนเองกว่า 1.3 พันล้านคน ยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะส่งเสริมให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถเติบโตจนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกได้ แต่ขณะเดียวกันการเข้ามาเจาะตลาดในประเทศไทย ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าจับตามอง

โดยแซตทีอี เริ่มเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากการจับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายในการวางจำหน่าย เพียงแต่ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามายังไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ยังคงต้องรอดูท่าทีต่อไปว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีไม้เด็ดอะไรเข้ามาชิงพื้นที่ในตลาดประเทศไทยหรือไม่

แต่ล่าสุดการกลับมารุกตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ของหัวเว่ย กับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Ascend ที่ขนมาตั้งแต่เครื่องระดับราคา 4,990 บาท ในรุ่น Y200 6,990 บาทในรุ่น G300 ไปจนถึง P1 ที่ราคา 14,990 บาท รวมกับ P1 S ที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนสุดบางที่ 6.69 มิลลิเมตร และวินโดวส์ โฟน 8 ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4 น่าจะสร้างความฮือฮาให้คอสมาร์ทโฟนที่นิยมของดีราคาถูก ได้ไม่ยากเย็นนัก

ถู หมิง ผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจดีไวซ์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากไลน์สินค้าที่หัวเว่ยนำเข้ามาเชื่อว่าหัวเว่ยจะสามารถทำยอดขายภายในสิ้นปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนเครื่องเพื่อขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5-6 ของตลาดแอนดรอยด์โฟน และจะช่วยให้ประเมินสภาพการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนได้ดีและใกล้เคียงความเป็นจริงยิ่งขึ้น

สำหรับช่องทางจำหน่ายของหัวเว่ยในปัจจุบันจะทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย รวมกับพาร์ทเนอร์ในการจัดจำหน่ายอย่าง ทีจีโฟน ที่มีกว่า 122 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนการจำหน่ายกว่า 90% จะมาจากทางฝั่งของโอเปอเรเตอร์ เนื่องจากทางทีจีโฟน วางเป้าการจำหน่ายหัวเว่ยในปีนี้ไว้ที่ราว 1 หมื่นเครื่องเท่านั้น ขณะที่บริการหลังการขายหัวเว่ยเลือกใช้ช่องทางของไอทีซิตี้และเอสวีโอเอกว่า 58 แห่งทำให้ลูกค้าสามารถนำเครื่องเข้าไปเปลี่ยน หรือส่งซ่อมได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม

สิ่งที่ทำให้หัวเว่ยมั่นใจ Ascend P1ว่าจะสร้างชื่อหัวเว่ยให้ติดปากสาวกสมาร์ทโฟนชาวไทย ในจังหวะที่รอรุ่นสุดบางที่สุดในโลกอย่าง Ascend P1 S เพราะAscend P1 นั้นก็ถือว่ายังมีความบางเป็นอันดับต้นๆในตลาดโลกด้วยขนาดที่บางเพียง 7.69 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ซึ่งรองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ด้วยหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.5 GHz กล้อง 8 ล้านพิกเซล กับความสามารถในการรองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย ในราคา 14,990 บาทนั้น ถือว่าอยู่ในระดับราคาที่คุ้มค่า เพราะถ้ามองในตลาดแล้วคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันอย่าง Sony Xperia S ราคาล่าสุดยังอยู่ที่ 15,900 บาท

จากราคาที่ใกล้เคียงกัน สุดท้ายแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคงหนีไม่พ้นผู้บริโภคที่มีทางเลือกที่หลากหลายขึ้นกับสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การทำงานได้ทุกรูปแบบในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดแอนดรอยด์โฟน ทั้งจากแบรนด์เดิมในตลาดอย่างซัมซุง เอชทีซี แอลจี โซนี และแบรนด์ที่เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็น ออปโป้ แซตทีอี และหัวเว่ย
กำลังโหลดความคิดเห็น