xs
xsm
sm
md
lg

ซูมXOOM ดีแต่แพง? (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Xoom (ขวา) แท็บเล็ตสายพันธุ์แอนดรอยด์จากโมโตโรลา
แท็บเล็ตหน้าตาดีของโมโตโรลารุ่นนี้กำลังถูกตราหน้าว่า "ท่าดีทีเหลว" เพราะยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกส่อแววด้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด หลายคนให้ความเห็นว่าเพราะ XOOM นั้นราคาแพงเกินไป แต่แฟนโมโตฯ จำนวนไม่น้อยแก้แทนว่า คุณสมบัติแสนจะเร้าใจทำให้ Xoom มีราคาสูงกว่าแท็บเล็ตแบรนด์อื่นเป็นธรรมดา เสียงความเห็นที่แตกแยกชัดเจนเช่นนี้ เหมาะนักที่จะเป็นเหตุผลในการนำ Xoom มาซูมเพื่อชำแหละปัจจัยรอบด้าน และทำความรู้จักชนิดทุกมุมมองของแท็บเล็ตแบรนด์โมโตโรลา ซึ่งมีดีกรีเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่กูเกิลการันตี

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ XOOM ในขณะนี้มาจากหน่วยวิเคราะห์ของดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank Research) ออกมาประกาศผลสำรวจตลาดที่พบว่าโมโตโรลานั้นสามารถวางจำหน่าย XOOM ได้เพียง 100,000 เครื่องเท่านั้น (นับจากการเปิดตัวในสหรัฐฯวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554) ตัวเลขนี้ทำให้ XOOM ถูกมองว่าพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งที่ทำตลาดล่วงหน้าไปก่อนอย่าง iPad ซึ่งทำตลาดได้ 300,000 เครื่องในการเปิดวางจำหน่ายวันแรกวันเดียว โดยดอยช์แบงก์วิเคราะห์ว่า XOOM จะจำหน่ายได้เพียง 150,000 เครื่องเท่านั้นภายในครึ่งปีนี้

ตัวเลขนี้ทำให้ XOOM "หมดรัศมี" ไปไม่มากก็น้อย เพราะเพื่อนร่วมสังเวียนอย่างริม (Research in Motion) ผู้ผลิตแบล็กเบอรี่นั้นถูกบริษัทวิจัยมอร์แกนสแตนเลย์ (Morgan Stanley) คาดการณ์ว่าจะสามารถจำหน่ายแท็บเล็ต PlayBook ได้เกิน 3.5 ล้านเครื่องภายในปี 2012 และข้อมูลซึ่งริมยื่นแก่สำนักงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯหรือ SEC ชี้ว่าริมมีแผนจะผลิต PlayBook จำนวนมากถึง 7 ล้านเครื่องใน 2-3 ไตรมาสนับจากนี้

แถมเมื่อเปรียบเทียบยอดขายหลักแสนของ XOOM กับยอดขายแท็บเล็ตรวมซึ่งดอยช์แบงก์คาดว่าจะเกินหลัก 45 ล้านเครื่องในปีนี้ จะถือว่าโมโตโรลาครองส่วนแบ่งตลาดได้น้อยนัก สะท้อนความนัยว่าโมโตโรลาจะตกที่นั่งลำบากแน่หากตลาดแท็บเล็ตมียอดขายพุ่งไปถึงระดับ 70 ล้านเครื่องตามที่ดอยช์แบงก์คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2012 ซึ่งทั้งหมดนี้ ดอยช์แบงก์คาดว่า iPad ของแอปเปิลจะครองส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตโลกมากกว่า 70%

เหตุผลหลักที่ดอยซ์แบงก์มองว่าซูมจะไปไม่ถึงฝั่งฝันคือราคาวางจำหน่ายที่สูงกว่าคู่แข่ง โดยรุ่น 3G WiFi แบบไม่ติดสัญญาวางจำหน่ายในราคา 799.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 24,000 บาท) และ 599.99 เหรียญสำหรับเครื่องพร้อมสัญญา 2 ปีจากเวอไรซอน (ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหรัฐฯ) โดยรุ่น WiFi วางจำหน่ายในราคา 599.99 เหรียญ ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมหน่วยความจำ 32GB ในขณะที่ไอแพด รุ่น WiFi ความจุ 16GB ราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญ

เทียบกันแล้ว "ซัมซุงกาแล็กซีแท็บ" ขายแบบไม่ติดสัญญาโดยเอทีแอนด์ทีราคา 649 เหรียญ บนความจุ 32 กิกะไบต์ และมีทีท่าลดราคาลงต่อเนื่องเพื่อรับการปรากฏตัวของกาแล็กซีแท็บ 2

หากมองให้ลึกขึ้น อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ XOOM อ่อนแรงจนไม่สมกับเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่กูเกิลการันตีด้วยการนำมาโชว์ตัวบนเวทีเปิดตัวแอนดรอยด์ 3.0 คือการขาดแคลนแอปพลิเคชัน เนื่องจากที่ผ่านมา กูเกิลยืนยันจุดยืนการแยกส่วนระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือออกจากแท็บเล็ตอย่างชัดเจน โดยวางแอนดรอยด์ 2.3 (Gingerbread) ออกมาใช้กับโทรศัพท์มือถือ และแอนดรอยด์ 3.0 (Honeycomb) สำหรับแท็บเล็ต เมื่อแยกระบบเช่นนี้ ผู้บริโภคจึงเกิดความไม่มั่นใจว่าจะต้องซื้อแอปพลิเคชัน 2 ครั้งเพื่อรันบน 2 อุปกรณ์หรือไม่ ผิดกับคู่แข่งอย่างแอปเปิล ที่พัฒนาไอโอเอส 4.3 เวอร์ชันเดียวให้สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์พกพาทุกชนิดของแอปเปิล สร้างความมั่นใจได้ว่าแอปฯที่ผู้บริโภคซื้อมานั้นสามารถใช้ได้บนทุกอุปกรณ์

สถานการณ์ของ XOOM ยังสั่นคลอนเพราะจำนวนแอปพลิเคชันที่รองรับมีน้อยเหลือเกินในขณะนี้ ทั้งที่ XOOM มีดีกรีเป็นแท็บเล็ตตัวแรกในตลาดที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Honeycomb ที่กูเกิลพัฒนาเพื่อใช้บนแท็บเล็ตโดยเฉพาะ แต่การแสดงแอปพลิเคชันซึ่งสามารถทำงานได้ดีบนโทรศัพท์แอนดรอยด์ก็ไม่สามารถแสดงผลได้ดีบน XOOM จุดนี้มีกระแสว่า สาวกแอนดรอยด์กำลังรอแอนดรอยด์รุ่นต่อไปที่คาดว่าจะรวมเวอร์ชัน 2.3 และ 3.0 ไว้ด้วยกัน จนทำให้สามารถใช้บนอุปกรณ์พกพาได้แบบไอโอเอส ซึ่งจะสร้างความมั่นใจเรื่องแอปฯได้มากขึ้น

ที่สำคัญคือ เกมที่รองรับชิป Tegra2 (ซึ่งโมโตโรลาติดตั้งใน XOOM) อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงที่เห็นชัดเจนนั้นมีเพียงเกมเดียวในขณะนี้ แม้จะสามารถรองรับไฟล์แฟลช 10.2 (Flash) ได้ก็ตาม

นอกจากนี้โมโตโรล่ายังต้องเจอกับปัญหาใหญ่ที่ไม่ได้ก่อ เพราะกูเกิลประกาศเลื่อนระยะเวลาการเปิดซอร์สของแอนดรอยด์เวอร์ชัน 3.0 ออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์นำไปใช้ก่อนกาลอันควร ทำให้นักพัฒนาไม่สามารถลงมือพัฒนาแอปฯสำหรับแอนดรอยด์ 3.0 ตามแผนที่วางไว้ ความไม่สะดวกในการพัฒนาส่งให้จำนวนแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ 3.0 มีน้อยและไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ร้อนถึงผู้ผลิตแท็บเล็ตหลายรายที่เตรียมนำเครื่องซึ่งติดตั้งแอนดรอยด์ 3.0 ออกวางจำหน่ายก็รวนไปด้วยเช่นกัน

สิ่งหักล้างข้อสังเกตจุดอ่อนของ XOOM ที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนในขณะนี้มีเพียง 2 จุด ได้แก่เรื่องราคาและความเคลื่อนไหวด้านระบบปฏิบัติการ โดยเรื่องแรก โมโตโรลาชี้ว่าการตั้งราคาให้ XOOM สูงกว่าคู่แข่งนั้นเป็นเรื่องที่มีเหตุผล เพราะ XOOM นั้นมีจุดเด่นมากพอ นั่นคือ XOOM รองรับการเชื่อมต่อที่เผื่อถึง 4G ในอนาคต โดย Sanjay Jha ซีอีโอโมโตโรลาเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นอลว่า ผู้ซื้อ XOOM รุ่นราคา 800 เหรียญจะสามารถอัปเกรดเป็น 4G ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

เรื่องที่สอง โมโตโรลาถูกรายงานว่ากำลังอยู่ระหว่างการซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการหรือโอเอสของตัวเอง โดยมีวิศวกรซึ่งเป็นอดีตลูกหม้อของแอปเปิลเป็นหัวหน้าทีม

เรื่องนี้ประชาสัมพันธ์โมโตโรลาย้ำว่าบริษัทไว้วางใจแอนดรอยด์ในฐานะระบบปฏิบัติการไม่เปลี่ยนแปลง แต่นักวิเคราะห์เชื่อข่าวนี้เป็นไปได้ เพราะคู่แข่งของโมโตโรลาล้วนมีโอเอสของตัวเองเรียบร้อย โดยเชื่อว่าโมโตโรลากำลังพยายามพัฒนาโอเอสของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้างทางเลือกของโมโตโรลาเองโดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มเดียว

อีกสาเหตุที่เชื่อกันว่าเป็นจุดเปลี่ยนให้โมโตโรลาตัดสินใจพัฒนาโอเอสของตัวเอง คือการเปิดเสรีเกินไปของแอนดรอยด์ ที่ผ่านมา ความเสรีของแอนดรอยด์ที่กูเกิลประกาศเป็นจุดยืนนั้นทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรู้สึกขาดการสนับสนุน ทำให้การเปิดอัปเดทโอเอสแอนดรอยด์หลายครั้งต้องล่าช้าออกไป ซึ่งไม่เกิดผลดีต่อการแข่งขัน

ถึงวันนั้น ผู้บริโภคก็จะตัดสินได้เองว่า ผลิตภัณฑ์ของโมโตโรลานั้น"คุณภาพดีเลยราคาแพง"หรือ"ดีแค่ราคาแพง"เท่านั้น

***XOOM สเปกไม่แพ้ใคร

XOOM มาพร้อมหน้าจอ 10.1 นิ้ว มีกล้องดิจิตอล 2 ตัวติดไว้ด้านหน้าและหลังเครื่อง กล้องด้านหน้าสำหรับการทำวิดีโอคอลล์จะมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขณะที่กล้องด้านหลังสำหรับถ่ายภาพและวิดีโอมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ใช้ซีพียู NVIDIA Tegra 2 ดูอัลคอร์ความเร็ว 1 GHz ตัวเครื่องรองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง Full HD 1080p และแบตเตอรีที่สามารถดูวิดีโอได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง

XOOM ถูกมองว่ายังแพ้ iPad 2 ที่ได้รับการการันตีจากแอปเปิลว่าเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก 8.8 มม. iPad 2 มาพร้อมหน้าจอ LED Backlit ขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Apple A5 ดูอัลคอร์ความเร็ว 1GHz มีกล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล (VGA) และกล้องหลังไม่ระบุจำนวนพิกเซลแต่รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p รองรับระบบเสียง Dolby Digital 5.1 สามารถเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง 1080p ผ่าน Apple Digital AV Adapter หรือ Apple VGA Adapter และอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ไอแพด 2 สามารถเชื่อมต่อพอร์ต HDMI

ในขณะที่แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุง อย่าง "Galaxy Tab 8.9" และ "Galaxy Tab 10.1" นั้นมีความบาง 8.6 มม. ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 3.0 ใช้ชิปประมวลผลดูอัลคอร์ความเร็ว 1 GHz ทำงานร่วมกับอินเตอร์เฟส Touchwiz 4.0 รองรับการใช้งาน Flash Player 10.2 Live Panel ช่วยให้สามารถปรับขนาดของวิดเจ็ตบนหน้าจอได้, มีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ที่สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 720p และกล้องตัวหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

***โมโตโรลาเป็นใคร

โมโตโรลาคือหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ได้รับความนิยมในตลาด ได้แก่ Droid, Droid 2, Droid X และล่าสุดคือ Atrix 4G นอกจากนี้ โมโตโรลายังจำหน่ายแท็บเล็ตแอนดรอยด์ Motorola Xoom ซึ่งจะนำชิปดูอัลคอร์มารันบน Android 3.0 Honeycomb

ก่อนหน้านี้ โมโตโรลาจัดการแยกบริษัทออกเป็น 2 ส่วนธุรกิจได้แก่ Motorola Mobility เพื่อดูแลธุรกิจอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ Motorola Solutions เพื่อดูแลธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย สำหรับติดตั้งในโครงการขนาดใหญ่ เช่นในโครงการภาครัฐ เอกชน และงานรักษาความปลอดภัยสาธารณชน

Company Relate Linl :
Motorola
กำลังโหลดความคิดเห็น