ไซเบอร์แพลนเน็ตชูธงโรงเรียนพันธุ์ใหม่

บริษัทผู้ผลิตเกมคอนโซลอย่างไซเบอร์แพลนเน็ตปิ๊งไอเดียแก้ทางแผ่นผี ผันตัวเองจากผู้ขายเกมเป็นผู้ให้บริการด้วยการเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษด้วยซอฟต์แวร์เกมเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์เกมที่เล่นบนพีซีแต่เป็นบนเครื่องเกมนินเทนโดดีเอส (DS) นักเรียนจะได้รับแจก DS คนละเครื่องเพื่อนำไปเล่นทุกวัน ต้องนำ"Monster"ที่เลี้ยงในเกมมาส่งครูทุกสัปดาห์ ค่าเรียนเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 12 เดือน เตรียมเพิ่มจำนวนโรงเรียนให้ได้ 100 สาขาใน 2 ปี เล็งเปิดแฟรนไชส์ทั่วประเทศ

ชนินทร์เดช วานิชวงศ์ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันไซเบอร์แพลนเน็ตมีรายได้จากการจำหน่ายซอฟต์แวร์เกมคอนโชลในทวีปอเมริกาและยุโรปมากกว่า 90% สัดส่วน 10% ที่เหลือคือรายได้จากประเทศไทย จุดนี้ชนินทร์เดชระบุว่าปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์แผ่นเกมในประเทศไทยเป็นอุปสรรคในการทำรายได้ 10% ดังกล่าว จึงต้องการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากการจำหน่ายเกมมาเป็นผู้ให้บริการ โดยเลือกให้บริการในรูปโรงเรียนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษนาม "Genius Planet " ภายใต้การดูแลของบริษัท อินฟอร์เมติกซ์พลัส (ในเครือไซเบอร์แพลนเน็ต) เพราะเชื่อว่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีในระยะยาว

"ปัญหาแผ่นปลอมแก้ไปก็เหนื่อย แทนที่จะเป็น One Time Charger เราก็เป็น Service Provider แทน ที่เรามองโรงเรียนเพราะกลุ่มตลาดใหญ่ ขณะเดียวกันเกมก็ทำให้เด็กเรียนรู้ได้ จากการทดสอบฟีดแบ็กที่ได้รับก็ดี สองปีที่ผ่านมาเราผ่านการพัฒนาและทดลองหลากหลาย สาเหตุที่เลือกสอนภาษาอังกฤษเพราะง่ายกว่าวิชาอื่น ขณะเดียวกันเราก็มองที่ตลาดเด็กไทยเป็นหลัก ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสนใจ"

สอนด้วยเกมเด็กจำได้ดีขึ้น 70%

ศศิวิมล เกิดผล ผู้บริหารสถาบันเสริมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ Genius Planet ซึ่งเปิดให้บริการแล้วที่เซ็นทรัลชิดลมทาวเวอร์ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ให้ข้อมูลว่าจุดมุ่งหมายของสถาบันคือต้องการให้ความรู้เยาวชนในรูปแบบใหม่ บนหลักการความรู้คู่ความสนุก เชื่อว่าการเรียนบนความสนุกจะทำให้เด็กจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น 70%

"ซอฟต์แวร์เกมของเราจะทำให้เด็กทำแบบฝึกหัดให้เบื่อน้อยที่สุด จุดต่างจากเกมสอนภาษาอื่นๆคือซอฟต์แวร์เหล่านี้จะรันบนคอมพิวเตอร์พีซี แต่ของเราเป็นแบบเครื่องเกมพกพา การเลี้ยง"Monster"จะเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กอยากทำแบบฝึกหัด ไม่อย่างนั้นจะแพ้เพื่อน"

การเลี้ยง"Monster"ที่ศศิวิมลกล่าวถึงจะอยู่ในโปรแกรมหลักสูตร English Monster เด็กจะได้รับไข่ Monster มาดูแล ให้อาหาร แต่งตัวและดูสถานะความต้องการได้เหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ การเติบโตของ Monster ของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามความถี่ในการทำแบบฝึกหัด หากเด็กขยันทำแบบฝึกหัดมาก ก็จะได้เงิน อาหาร และสิ่งของมาเลี้ยงดู Monster ภายในโปรแกรมประกอบด้วยโจทย์ปัญหามากกว่า 10,000 ข้อ คำศัพท์ 2,000 คำ

"เด็กจะต้องเข้ามาที่โรงเรียนทุกสัปดาห์เพื่อปลดล็อกเกม ให้คุณครูได้ตรวจสอบการบ้าน ถ้าเด็กไม่ทำแบบฝึกหัดก็จะรู้ได้จากหน้าตา Monster ที่อาจจะตัวโตจริงแต่ตาเหล่ ตรงนี้เด็กจะได้ทำซ้ำจนจำได้โดยไม่รู้ตัว จะช่วยผู้ปกครองดูแลเรื่องการท่องศัพท์ของเด็กได้ดี"

ระยะเวลาหลักสูตรของ Genius Planet คือ 12 เดือน เน้นกลุ่มเด็กชั้นประถมศึกษา ขณะนี้มีนักเรียนราว 40 คน ค่าเล่าเรียนเริ่มต้นคือ 18,000 บาท (เฉลี่ยเดือนละ 1,500 บาท) เมื่อลงทะเบียนจะได้รับแจกเครื่องเกม DS 1 เครื่องทุกคน เด็กที่มีเครื่องอยู่แล้วจะไม่ได้ลดหย่อนค่าเรียน

"ที่เป็น DS เพราะไซเบอร์แพลนเน็ตได้รับใบอนุญาตให้พัฒนาเกมบนเครื่อง DS เรามีแผนลงทุนเปิดโรงเรียนให้ได้ 50 สาขาและเปิดเป็นแฟรนไชส์ทั่วประเทศใน 1-2 ปีนี้ จะเน้นประชาสัมพันธ์ด้วยการแจกโบรชัวร์ ออกบูธ และทำกิจกรรม ไซเบอร์แพลนเน็ตใช้งบประมาณลงทุนครั้งนี้ไปราว 4-5 ล้านบาท เชื่อว่าสิ้นปีจะสามารถคืนทุนได้"

ไซเบอร์แพลนเน็ตยืนยันว่า การปักธงในตลาดโรงเรียนไม่ได้แปลว่าบริษัทกำลังปูพรมให้เด็กไทยหันมาซื้อซอฟต์แวร์เกมมากขึ้น โดยจะมุ่งให้ความรู้แก่เด็กไทยอย่างเดียว สำหรับแผนการส่งออกซอฟต์แวร์สอนภาษาไปยังต่างประเทศ และการเปิดเป็นแฟรนไชส์นั้นต้องรอดูเสียงตอบรับจากตลาดระยะหนึ่งก่อน

ยื่นเรื่องเข้าตลาด "mai" ส.ค.นี้

ชนินทร์เดชระบุว่า ไซเบอร์แพลนเน็ตเตรียมยื่น Filing เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนสิงหาคมนี้

"สาเหตุที่เป็นตลาด mai เพราะทุนจดทะเบียนไม่ต้องเยอะมากเหมือนตลาดใหญ่ เราเน้นความคล่องตัวของธุรกิจ ตอนนี้เรามี 110 ล้านบาทกำลังจะเพิ่มเป็น 140 ล้านบาทใน 2 เดือนนี้ เราต้องการระดมทุนเพื่อขยับสถานะด้านเครดิต และเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต แม้จะยื่น Filing ปีนี้แต่การเสนอ IPO ยังต้องรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อน"

ชนินทร์เดชยอมรับว่าวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯมีผลกระทบต่อบริษัทเนื่องจากเป็นแหล่งรายได้กว่า 90% อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตก็มีโอกาสเพราะไซเบอร์แพลนเน็ตได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะบริษัทผลิตเกมที่มีจุดแข็งเรื่องราคาและคุณภาพ โดยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำรายได้รวม 40 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปีที่ผ่านมาสามารถทำได้ 85-100 ล้านบาท บนเกมที่พัฒนาประมาณ 20 Title ต่อปี

"ตอนนี้เราเริ่มทดลองตลาด iPhone แล้ว เริ่มปล่อยไป 2 ตัวซึ่งเห็นเลยว่าตลาดจะโตต่อเนื่องแน่นอน ปีหน้าเราจึงคิดว่าจะแบ่งสัดส่วนการพัฒนาเกม 4 แพลตฟอร์มให้เฉลี่ย 25% เท่ากัน ได้แก่ เครื่องเกม DS, Wii, PSP และ iPhone ซึ่งแอนดรอยด์เราก็ดูอยู่ แต่คิดว่าจะกลับไปเหมือนจาวา ไม่ได้ทำให้มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์เติบโตต่อเนื่องเหมือน iPhone"

Company Related Links :
Cyberplanet