ผู้สร้างเปิดงบพัฒนาเกม"Gran Turismo 5"เหยียบ 2พันล้าน!

“คาซุโนริ ยามาอุจิ” หัวหน้าทีมพัฒนาเกมแข่งรถสุดสมจริงตระกูล GT จากโพลีโฟนี่ ดิจิตอล เปิดเผยผ่านทางออโต้วีคถึงงบประมาณในการสร้างเกม “แกรน ทูริสโม่ 5”(Gran Turismo 5) หนึ่งในเกมเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเครื่องเพลย์สเตชัน3 (PS3) ที่คอเกมแข่งรถทั่วโลกรอคอยมากที่สุดเกมหนึ่งในจำนวนถึง 2 พันล้านบาท

ยามาอุจิ กล่าวว่า ทุนในการสร้างเกม GT5 อยู่ที่ประมาณ 5,430 ล้านเยน (60 ล้านเหรียญสหรัฐ)หรือประมาณ 2,000ล้านบาท จัดอยู่ในกลุ่มเกมที่มีทุนสร้างสูงเกมหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถือว่าใช้งบมากที่สุด เพราะมีเกมอื่นที่ใช้เงินมากกว่านี้ หากพิจารณาจากขนาดและสเกลของเกม ตัวเขามองว่าได้ใช้เงินไปค่อนข้างน้อยเสียด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ เงินทุนในการสร้างวิดีโอเกมตามที่มีสื่อรายงานให้ทราบกันก็มีมากน้อยแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น เกม Killzone 2 ใช้งบสร้าง 21 ล้านเหรียญสหรัฐ ,เกม Too Human กับ Grand Theft Auto IV ใช้ทุนสร้างราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และแม้แต่ เกม Shenmue ในยุค Dreamcast ที่ออกมาในปี 1999 ก็ลงทุนสร้างไปถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ

เกม GT5 มีรถให้เราขับขี่เกือบ 1,000 คัน โดยแต่ละคันก็มีถึง 400,000 โพลีกอน หรือเกือบ 100 เท่าของเกม GT ภาค 4 แถมยังสามารถปรับแต่งรถได้อีกด้วย ขณะเดียวกันรถยนต์ในเกมภาคใหม่จะมีอาการเสียหายจากการขับชนสิ่งอื่นได้ โดยยามาอุจิยอมรับว่าเป็นงานที่ค่อนข้างโหดหิน เพราะไม่มีทำมาก่อนใน GT ส่วนฉากสถานที่ขับขี่จะมีอยู่ 20 แห่ง และมี 70 เส้นทางที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ โซนี่ได้ยืนยันด้วยว่า เกม GT5 จะมีฟังก์ชันในการปรับแต่งสนามแข่งด้วยตัวผู้เล่นเอง

ยามาอุจิ เผยถึง 3ปัจจัยในการเลือกรถให้อยู่ในเกมว่า ประการแรกเป็นกลุ่มรถที่ตัวเขาต้องการจะให้มี ตามมาด้วยรถที่ผู้เล่นต้องการ และรถที่บริษทผลิตรถปรารถนา พร้อมเล่าให้ฟังว่า เคยมีกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เสนอตัวที่จะจ่ายเงินเพื่อให้รถของเขาถูกบรรจุลงไปในเกม แต่ทางทีมงานได้บอกปัดที่จะรับเงินนั้นเอาไว้ จึงเสนอทางเลือกให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันจะดีกว่า ด้วยเหตุนี้ความร่วมมือในการพัฒนาเกมจึงค่อนข้างสูงกว่าปกติ

เมื่อถูกถามว่า ได้ลองเกมคู่แข่ง Forza Motorsport 3 หรือยัง ผู้ให้กำเนิด GT ตอบว่า ตัวเขาได้เห็นลูกทีมที่บริษัททดลองให้ชมแล้ว ตัวเขาก็ได้ลองไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็เห็นว่ามีสิ่งที่คล้ายเอามากๆในหลายๆประการกับ GT อย่างไรก็ตาม มันก็มีองค์ประกอบบางอย่างที่แตกต่างจาก GT มากด้วยเช่นกัน นั่นคือความสมจริงเมื่อคุณได้ลองขับ