xs
xsm
sm
md
lg

8 ส.ส.ปชป.ดาหน้าปฏิเสธกดดันปรับ ครม. รับอึดอัดจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


8 ส.ส.เลือดใหม่พรรคประชาธิปัตย์ ดาหน้าแถลงปฏิเสธกดดันให้ปรับคณะรัฐมนตรี ยอมรับอึดอัดในการทำงานของรัฐบาลบางคน ทั้งยังเกิดเหตุประสานงานกับทีมงานยาก วอนรัฐมนตรีทำใจทนฟังเสียงวิจารณ์บ้าง จี้ปรับตัวเพราะพรรคมีบุคคลในพรรคหลายคนเหมาะสมในการทำงาน

วันนี้ (19 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 13.20 น. นพ.บุรณัชย์ สมุทธรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย 7 ส.ส.หน้าใหม่ แถลงปฏิเสธข่าวว่า ส.ส.หน้าใหม่พรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้มีการปรับ ครม.เนื่องจากไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีบางคน โดยระบุว่าเป็นธรรมชาติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดให้ ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ในการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้เกิดความแตกแยกแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีความอึดอัดในการประสานงานกับรัฐมนตรี แต่ไม่ถึงขึ้นต้องปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในช่วงนี้

โดย นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในการทำงานของรัฐมนตรีทุกคน รวมถึงการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีในการฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งในการตั้งรัฐบาลวันแรก ส.ส.ของพรรคได้มอบเอกสิทธิ์ในการจัด ครม.ให้แก่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค และจนถึงขณะนี้ ส.ส.ของพรรคมีความมั่นใจตรงกับความรู้สึกของภาคเอกชนและประชาชนว่า ส.ส.ให้การสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเห็นว่ามีส่วนช่วยในการทำงานของนายกฯ ในการแก้วิกฤตของประเทศได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ส.ส.มีข้อห่วงใยในเรื่องการประสานงานกับทีมงานของรัฐมนตรีเป็นหลัก โดยผลส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ ส.ส.เป็นที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรี ทำให้การประสานงานเพื่อการแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนยากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ทางพรรคก็ได้พยายามปรับปรุงเพื่อให้รัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอแนะของประชาชนผ่านการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่า พรรคยังมีบุคคลากรที่เหมาะสมอีกหลายคนที่ในอนาคตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคอาจมีความเห็นว่าสามารถที่จะเข้ามาทำงานได้ นายกฯ ก็จะเป็นคนชี้แจงให้เราได้รับทราบ

ด้าน นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม.กล่าวว่า ข่าวที่มี 40 ส.ส.หน้าใหม่ไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรี จนกดดันให้มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ไม่ใช่กลุ่มพวกตน แต่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดกว้างให้มีการพูดคุยกันไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือคนใด ถ้าหากทำไม่ถูกต้องก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด ถือเป็นธรรมชาติ แต่ที่ไม่ใช่วัฒนธรรมคือการไปพูดกันลับหลัง แล้วมาแอบอ้างว่าเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไข เพื่อไม่ใช่วัฒนธรรมที่ดีและสร้างสรรค์ เพราะการพูดดังกล่าวไม่ใช่เป็นเจตนาของคนกลุ่มใหญ่แน่นอน ซึ่งตนเห็นว่าขณะนี้รัฐมนตรีทำงานได้ดีเหมาะที่จะทำหน้าที่ต่อไป ยังไม่เหมาะที่จะเปลี่ยนม้ากลางศึกโดยไม่มีเหตุผล

“เรื่องการทำงานที่อาจจะไม่มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ทันใจพวกเรามากนัก เป็นเรื่องที่เราจะเสนอแนะพูดคุยวิพากษ์วิจาณณ์กันได้ แต่รัฐมนตรี ถ้าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเองก็ต้องปรับตัวและต้องทำใจทนฟังความติติงของคนในพรรค และหากทนฟังคำแนะนำที่ดีที่สุดไม่ได้ ความจริงก็ยังมีหลายๆ คนที่เหมาะสมจะไปทำงานตรงนั้นก็ได้เช่นกัน แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น และพวกเราจะไม่สบายใจหากมีการนำเรื่องเหล่านี้ไปพูดกันในที่สัมมนาที่ จ.สุราษฎรษ์ธานี ดังนั้น หากตรวจสอบแล้วพบว่าจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ เราก็อาจจะทบทวนการเดินทางไป” นายชนินทร์ กล่าว

ขณะที่ นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ส.ส.กทม.กล่าวยอมรับว่ามี ส.ส.รู้สึกอึดอัดกับการทำงานของรัฐมนตรี แต่เชื่อว่าเป็นความรู้สึกของ ส.ส.หน้าใหม่ไฟแรงที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ทำงานได้กระชับขึ้น และเป็นการกระตุ้นรัฐมนตรี ที่ทำอะไรไม่ได้ดังใจที่หวังไว้ แต่ไม่ถึงกลับที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีทันทีทันใด โดยกระทรวงไหนที่ขับเคลื่อนช้าก็ต้องมีการปรับปรุง

ด้าน นางนาถยา เบญจศิริวรรณ ส.ส.กทม.กล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วงการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ บรรดา ส.ส.รู้สึดอึดอัดใจ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับการทำงานของรัฐมนตรี แต่เมื่อมีการปรับตัวกันแล้วขณะนี้ทุกคนน่ารักมากจึงยังไม่ควรปรับเปลี่ยนอะไร


กำลังโหลดความคิดเห็น