“กอร์ปศักดิ์” ปัดข่าวเกาเหลา ครม. ลั่นพร้อมไขก๊อกเองหากทำงานแย่

รองนายกฯ คุมเศรษฐกิจ ปฏิเสธไม่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการทำงานกับใคร ตาใสบอกไม่รู้เรื่องลูกพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเขี่ยพ้นครม. เหตุงานอืด ลั่นพร้อมไขก๊อกเอง หากทำงานไม่เข้าเป้า ย้ำพ.ร.ก.กู้เงิน 8 แสนบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ หากล่าช้าเพียง 1 เดือนยังรอได้

วันนี้(19 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์กรณีเป็น 1 ใน 5 รัฐมนตรีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยากให้ปรับออกเพราะไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นสมาชิกว่า ไม่ทราบ ในการประชุมพรรคที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ จึงไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน เพราะที่ผ่านมาก็ทำตามหน้าที่ และไปร่วมประชุมพรรคทุกครั้ง ส่วนใหญ่จะมีคำถามในเรื่องของเงินกู้ 8 แสนล้านบาทว่าจะไปใช้จ่ายอย่างไร ก็อธิบายให้ฟัง

“ขอยืนยันว่า ผมไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร และไม่คิดว่าข่าวนี้จะเป็นแรงกดดันในการทำงาน เพราะส่วนตัวคิดว่าแรงกดดันที่สำคัญก็คืองานที่ทำมากกว่า เพราะงานมันทำยาก โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งทำยากขึ้นทุกวัน เราอยากออกพ.ร.ก. กู้เงินก็ยังออกไม่ได้ จึงเป็นแรงกดดันที่ทำให้ทำงานยากขึ้น แต่เรื่องการทางการเมืองไม่มี การเมืองกับเศรษฐกิจต้องแยกกัน เอามารวมกันไม่ได้ ถ้าอยากจะเอาความขัดแย้งทางการเมืองมารวมในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจริงๆ มันไม่ได้ มันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด และเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะเอาการเมืองจะมากดดัน”นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจยาก อาจทำให้ถูกมองว่าผลงานล่าช้า นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า งานยังไม่ได้เริ่มเลย อย่าไปมองว่างานออกช้า งบ 8 แสนล้านบาทก็ยังไม่ได้เริ่ม และตอนนี้ก็ยังเริ่มไม่ได้เพราะฝ่ายค้านไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพ.ร.ก.กู้เงิน ก็ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเสร็จก่อน และรัฐบาลก็ไม่มีแผนสำรองในเรื่องนี้ ยังไม่คิดว่าจะต้องนำเงินกู้ 4 แสนล้านนี้ไปรวมกับพ.ร.บ.กู้เงินทีเดียว 8 แสนล้านบาท เพราะมั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องล่าช้าออกไป 1 เดือนเราก็ยังรอได้ เพราะการเตรียมพร้อมกู้เงินก็เดินหน้าต่อ เพียงแต่ยังไม่กดปุ่มเริ่มเท่านั้นเอง ถ้าเป็นภายในเวลา 1 เดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่ฝ่ายค้านติงว่าทำไมไม่เอาเงินกู้ ที่เป็นงบลงทุนไปไว้ในงบปี 53 นั้น ก็เพราะมีเพดานเงินกู้อยู่ จะกู้มากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าจะกู้เกินเพดานต้องไปแก้กฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไม่อยากทำ

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีปัญหาการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะถูกมองว่าไปตรวจสอบเรื่องงบประมาณละเอียดมาก นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ในทางการเมืองตนไม่ทราบ ตนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในเรื่องเศรษฐกิจก็จะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานของพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่อาจจะจะมีความเห็นแตกต่างกันบ้าง ส่วนเรื่องการตรวจสอบนั้นจริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องของการตรวจสอบแต่เป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า ที่บอกว่าตนตรวจสอบงบประมาณละเอียดผ่านงบประมาณยากนั้นไม่จริง ตนไม่มีสิทธิเข้าไปตรวจสอบอะไรเลยอยู่แล้ว เรื่องการจัดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ไปดูได้เลยกระทรวงที่ได้มากที่สุดก็คือกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งนั้น ถ้าหากอยากจะมองในเรื่องเม็ดเงิน เราไม่ได้ดูว่าจะเป็นกระทรวงไหน แต่ดูว่าจะทำงานอะไร

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาเรื่องการแทรกแซงราคาข้าวโพดกับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์นั้นก็ไม่มีอะไร เราทำตามหน้าที่ และเป็นที่เข้าใจแล้วว่าวิธีการเดิมมันทำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของครม.ชุดเก่า จึงเป็นหน้าที่ของครม.ชุดใหม่ที่มีคณะกรรมการดูแลข้าวโพดและมันสำปะหลัง ต้องไปรับผิดชอบ ขณะนี้รอมติครม.ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนน่าจะออกภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งนางพรทิวาก็ยังเป็นประธานอนุกรรมการการระบายข้าวโพดอยู่ดี เพียงแต่เป็นกรอบใหม่ที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า นางพรทิวาระบุว่าถ้ายิ่งยาวไปคุณภาพข้าวโพดจะมีปัญหาและราคาตก นายกอร์ปศักด์ ระบุว่า แต่ถ้าขายในวันนั้นมันผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้อง เป็นไปตามติครม.ชุดเก่า ตนก็เป็นห่วงแทน ยืนยันตนไม่มีปัญหาอะไรถึงขนาดจะทำงานกันไม่ได้

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่างบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 นั้น เราอยากทำเรื่องชลประทานให้มากที่สุด ตามนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็ใส่ไปเต็ม ๆ เรื่องถนนไร้ฝุ่นก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไปตรงกัน ทางกระทรวงคมนาคมก็ได้ไปเต็ม ๆ ตนก็ไม่เห็นมีอะไร

“ ปัญหาผมไม่ทราบว่าใครมี แต่ผมไม่ได้มีปัญหากับใคร ผมก็ทำงานตามหน้าที่ของผมไปเท่านั้นเอง”

เมื่อถามว่า ทางคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่านายกอร์ปศักดิ์กับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ทำงานไม่เข้าขากันมีเรื่องเดียวที่ตรงกันคือการกู้เงินและรีดภาษี รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเขาพูดว่าอย่างไร ตรงไหนที่ไม่เข้าขากัน ที่มองว่าตนมีความคิดสุดโต่งคนละทางนั้นไม่จริงเลย เพราะเราคุยกันตลอด เมื่อถามว่า คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแนะว่าหากในไตรมาส 2 นี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ก็ควรให้ท่านพร้อมด้วยรมว.คลังพิจารณาตัวเอง นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถ้าทำงานไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนตัวอยู่แล้ว หากเราทำงานไม่ได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ทำ