ทีมสืบสวนเกาหลีใต้ แกะรอยการจู่โจมระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำให้เว็บไซต์ของรัฐบาลและแหล่งข้อมูลสำคัญในสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ใช้การไม่ได้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9) พบว่านักเจาะระบบใช้ไอพีแอดเดรสทั้งสิ้น 86 ชื่อ เป็นชื่อที่มาจาก 16 ประเทศ ท่ามกลางข้อสังสัยว่าเกาหลีเหนือคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีในครั้งนี้
ชุง ชิน-ซับ สมาชิกคณะกรรมาธิการศูนย์เทคโนโลยีรัฐสภาเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังเข้ารับทราบความคืบหน้าจากทีม National Intelligence Service (NIS) ถึงการตรวจสอบหมายเลขไอพีแอดเดรสต้องสงสัยเพื่อสืบหาตัวการที่ลงมือจู่โจมระบบเว็บไซต์ของรัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ว่ามีทั้งไอพีแอดเดรสจากประเทศเกาหลีใต้เอง สหรัฐฯ ญี่ปุ่น กัวเตมาลา และอื่นๆ
ไอพีแอดเดรสนั้นเป็นเหมือนรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในการระบุตัวตนได้เหมือนหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับการโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นจัดเป็นภัยจู่โจมที่เรียกว่า denial of service ซึ่งมีลักษณะคล้ายการถล่มเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการเว็บไซต์นั้นๆด้วยการสร้างทราฟฟิกปลอมนับแสนล้านให้วิ่งไปพร้อมกันสู่เว็บไซต์เดียว ผลคือเว็บไซต์นั้นจะล่มและไม่สามารถให้บริการได้ระยะหนึ่ง
ชุงระบุว่า ทีม NIS ให้เบาะแสทางเทคนิกที่มีน้ำหนักว่า เกาหลีเหนือคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ
อย่างไรก็ตาม ความเห็นของชุงนั้นแตกต่างจากสมาชิกคณะกรรมาธิการรายอื่น โดยปาร์ค ยุง-ซุง ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ เนื่องจากการสืบสวนเบาะแสยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งอาจจะมีข้อมูลใหม่ที่ไม่ชี้ว่าเกาหลีเหนือคือผู้กระทำผิดก็ได้
"ไม่มีชื่อเกาหลีเหนือในไอพีแอดเดรสต้องสงสัย 16 ประเทศนั้น" ปาร์กกล่าว
การโจมตีเว็บไซต์ของเกาหลีใต้และสหรัฐฯนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย 7 เว็บไซต์ของเกาหลีใต้ถูกโจมตีต่อเนื่องจนไม่สามารถให้บริการได้ หนึ่งในนั้นเป็นเว็บไซต์หน่วยงานรัฐบาล นอกนั้นเป็นเว็บไซต์สำคัญของเกาหลีใต้ เช่น ธนาคารและเว็บไซต์ข่าว แต่ด้วยการสำรองข้อมูลที่รวดเร็วทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดสามารถเปิดให้บริการได้แล้วในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การโจมตีทำให้ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์และข้อมูลบางส่วนเสียหายราว 50 กรณี
ในส่วนของสหรัฐฯ รายงานระบุว่าเว็บไซต์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยราชการสหรัฐฯถูกปั่นป่วนต่อเนื่องช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งเว็บไซต์ทำเนียบขาว กระทรวงการคลัง กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงป้องกันมาตุภูมิ กระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มการป้องกันภัยอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ ทีมสืบสวนเชื่อว่าการโจมตีนี้อาจจะพัฒนาเข้าสู่ระยะใหม่ในวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม โดยตั้งข้อสังเกตว่าการโจมตีอาจไม่ได้มุ่งที่การให้บริการเว็บไซต์ แต่จะมุ่งเจาะระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและสร้างความเสียหายด้วยการลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ทิ้งแทน
นอกจากนี้ ยังมีชื่อประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และจอร์เจียในไอพีแอดเดรสต้องสงสัยที่พบด้วย คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดการสืบสวนอื่นๆอีกในอนาคต
เรียบเรียงจากเอพีและรอยเตอร์ส
