xs
xsm
sm
md
lg

จัสเทลปั้นจัสมินทาวเวอร์สู่ ICT HUB ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชาย ตรีรัตนนุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (ซ้ายสุด) เปิดตัว CO-LOCATION & DATA CENTER มาตรฐานระดับสากล ที่สามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ที่ชั้น 5  อาคารจัสมินกรุ๊ป  ถนนแจ้งวัฒนะ
จัสเทล เดินหน้าขยายธุรกิจสื่อสารระหว่างประเทศ ทุ่ม 450 ล้านบาทปั้นอาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เป็น ICT HUB and Landmark of Thailand สานฝันร่วมผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น ICT HUB ของภูมิภาค พร้อมขยายช่องทางสัญญาณเกตเวย์ต่างประเทศอีก 20-30 Gbps ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตั้งเป้าปี 2552 จัสเทลจะมีรายได้ทะลุ 700 ล้านบาท

นาย สมชาย ตรีรัตนนุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด ในเครือจัสมิน กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “ ITC Telecom Asia 2008” ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาพบว่า บริการวงจรเชื่อมต่อออกต่างประเทศของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากลูกค้าภายในประเทศและต่างประเทศ และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้จะเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ในปี 2552 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจสื่อสารระหว่างประเทศด้วยเงินลงทุน 450 ล้านบาท พร้อมเดินสายประชาสัมพันธ์ทั่วโลก เริ่มจากปรับอาคาร จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JI TOWER) ถนนแจ้งวัฒนะ เป็น International ICT HUB and Landmark of Thailand สานต่อแนวคิดร่วมผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น Alternative ICT HUB ของภูมิภาค

ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปี 2552 นี้ จัสเทลจะลงทุนขยายช่องสัญญาณเกตเวย์ต่างประเทศอีกประมาณ 20-30 Gbps ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น และมีเส้นทางสำรองมากขึ้น เชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน และ เกาหลี เป็นต้น รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ และวงจรเช่าส่วนบุคคลของประเทศไทยได้อย่างเพียงพอ

นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนและเตรียมเปิดตัวศูนย์บริการติดตั้งอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและศูนย์ข้อมูล (Co-location and Data Center) แห่งใหม่ มาตรฐานระดับสากล และต่างประเทศให้การยอมรับ ที่ชั้น 5 ของอาคารจัสมินในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเปิดตัวอีกแห่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเดือนสิงหาคม ปีนี้

นายวิทยา ลักษวุธ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย กล่าวว่า บริษัทจะเดินสายประชาสัมพันธ์ และดำเนินกิจกรรมการตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศมากขึ้น โดยเริ่มจากการเดินสายเข้าร่วมงาน PTC 09 ซึ่งจัดขึ้นที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18-21 มกราคม 2552 ต่อด้วย การทำ Workshop และ Event ที่สิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ และงาน “Carrier World Conference” วันที่ 17 - 19 มีนาคม 2552 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฮ่องกง นับเป็นการทำการตลาดเชิงรุกในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อตอกย้ำ Brand “JasTel” ให้ติดตลาดในระดับสากล พร้อมทั้งเป็นการหาลูกค้า และสร้างพันธมิตรใหม่ โดยคาดการณ์ว่าปี 2552 นี้จัสเทลจะมีรายได้ทะลุ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ประเทศไทยเหมาะที่จะเป็น Alternative ICT HUB ของภูมิภาค เนื่องมาจากประชากรมีจำนวนมาก กฎ กติกา เริ่มมีความชัดเจน จากนโยบายการเปิดเสรีของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และ ชูศักยภาพความพร้อมของอาคาร จัสมินเป็น International ICT HUB and Landmark of Thailand” นายสมชายกล่าวเสริม

ปัจจุบัน จัสเทลให้บริการวงจรเช่าส่วนบุคคลระหว่างประเทศ (IDLC) บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ (Global IP Transit and Access) บริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศสำหรับองค์กร (Global IP - VPN) บริการ Co - location and Data Center และบริการบริหารจัดการโครงข่ายระบบครบวงจร (Managed Network Service) มีฐานลูกค้าครอบคลุมในหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ ผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และชุมสายอินเทอร์เน็ต (IIG/ISP) ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (IDD/VOIP) ธุรกิจด้านสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ กลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และบริษัทที่มีเครือข่ายสาขาต่างประเทศ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การโรงแรม สถาบันการเงิน สถานทูต และสำนักข่าวต่างประเทศ เป็นต้น

Company Related Links :
JASTEL
กำลังโหลดความคิดเห็น