จัสเทลบริการเกตเวย์ตปท.เต็มตัว

จัสเทลประกาศพร้อมให้บริการเกตเวย์ต่างประเทศเต็บสูบ ประเดิมเปิดตัวบริการในงาน ITU เผยครึ่งปีแรกรายได้โต 5 เท่า 400 ล้านบาท ทั้งที่ลงทุนไปเพียง 400 ล้านบาท เตรียมชักชวนเอกชนรายอื่นลงขันสร้างไฟเบอร์ใต้น้ำเสริมความแข็งเกร่ง มั่นใจปลายปีหน้าคนไทยได้ใช้อินเทอร์เน็ต 4 กิกะไบต์ในราคา ไม่เกิน 890 บาท

นายสมชาย ตรีรัตนนุนูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค ในเครือจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าให้บริการเช่าช่องสัญญาณระหว่างประเทศ(เกตเวย์) หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบให้บริการเกตเวย์ต่างประเทศแบบมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง เมื่อปลายปี 2549 และได้เริ่มให้บริการแก่ลูกค้าในต่างประเทศไปบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะร่วมออกบูทแนะนำตัว และสินค้าบริการของบริษัทในงาน “ITU Telecom Asia 2008” งานระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ดี พบว่าขณะนี้ในประเทศไทยมีความต้องการบริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเกิดการเปิดเสรี ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้มีการใช้บริการช่องสัญญาณ (Bandwidth) ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากตามไปด้วย

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 เท่าตัว โดยตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.51 บริษัทได้เซ็นสัญญาให้บริการแก่ลูกค้าและรับรู้รายได้ไปแล้ว 400 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มให้บริการตั้งแต่มิ.ย.-ธ.ค.50 มีรายได้ทั้งสิ้น 100 ล้านบาทคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีรายได้ทั้งสิ้น 450 ล้านบาท และวางเป้าหมายไว้ภายใน 2 ปี บริษัทจะต้องมีรายได้ 1,000 ล้านบาท

สำหรับที่ผ่านมา บริษัทใช้เงินลงทุนสำหรับวางโครงข่ายให้บริการไปแล้วทั้งสิ้น 300-400 ล้านบาท นอกจากนี้ เชื่อว่าปลายปีหน้าตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศไทยจะมีความเร็วให้บริการถึง 4 กิกะไบต์ ในราคาเดียวหรือใกล้เคียงกับความเร็วที่ 2 กิกะไบต์  ที่ราคา 590-890 ล้านบาท

นายสมชายกล่าวว่า  บริษัทมีเป้าหมายผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นฮับเกตเวย์ต่างประเทศในภูมิภาคอินโดจีน เพราะประเมินแล้วประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันเป็นฮับเกตเวย์ภูมิภายเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ แทนที่สิงคโปร์ได้

ทั้งนี้ การลงทุนโครงข่ายเพื่อให้บริการเกตเวย์ออกต่างประเทศในที่ผ่านมาของบริษัทยังไม่เพียงพอ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะลงทุนเคเบิลใต้น้ำเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพในการให้บริการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท แต่การลงทุนจะเป็นการลงทุนแบบกิจการร่วมค้ากับผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อร่วมเงินลงทุนกัน

นายวิทยา ลักษวุธ Assistant Vice President จัสเทล กล่าวว่า หลังจากเริ่มให้บริการแก่ลูกเช่าช่องสัญญาณระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2549 พบว่าธุรกิจมีการเติบโตสูงถึง 5 เท่า และยังสามารถขยายเครือข่ายด้านการตลาดร่วมกับพันธมิตรที่เป็น Global Network Operator เช่น ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศมาเลเชีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันจัสเทล มีบริการอยู่หลายประเภท เช่น วงจรเช่าส่วนบุคคลระหว่างประเทศ (IPLC) บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ (Global IP-VPN) บริการดาต้าเซ็นเตอร์ (Co-locate/Data center และบริการบริหารจัดการโครงข่ายแบบครบวงจร (Managed Network Services )

ขณะนี้จัสเทล มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลายธุรกิจ เช่น ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ธุรกิจด้านสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ กลุ่มบริษัทข้ามชาติ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัท หรือองค์กรที่มีสาขา และเครือข่ายในต่างประเทศ เช่นสถาบันการเงิน สถานทูต สำนักข่าวต่างประเทศ ธุรกิจอุตสาหกรรม

Company Related Links :
Jastel