xs
xsm
sm
md
lg

สมชาย ตรีรัตนนุนูล คนหนุ่มไฟแรง กลับภาระกิจปั้นจัสเทลติดตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝันที่พลิกผันของ “สมชาย ตรีรัตนนุนูล” คลื่นลูกใหม่จัสมินกรุ๊ป จากหมอคนมาเป็นหมอเครื่อง กับภารกิจปั้น จัสเทล ธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศเอกชนรายแรก มุ่งสู่เป้าหมายทำเงิน 1,000 ล้านบาท และผลักดันไทยกลายเป็นฮับอินโดจีน

เมื่อเลือดใหม่ของ กลุ่มจัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล อย่าง จัสเทล เน็ทเวิร์ค ตั้งหลักเปิดตัวทำธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศ เป็นเอกชนรายแรก พร้อมกับเป้าหมายทำรายได้ให้ถึง 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี งานหินชิ้นนี้ถูกส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่วัยยังไม่ถึง 40 ปี อย่าง “สมชาย ตรีรัตนนุนูล” ที่นั่งในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป

“สมชาย” ถือเป็นลูกหม้อของจัสมิน อินเตอร์ฯ มานานกว่า 15 ปี เริ่มต้นทำงานตั้งแต่พ้นจากรั้วสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปริญญาตรี คณะวิศวกรรม สื่อสารโทรคมนาคมและเติบโตมากับงานวางระบบเคเบิลใต้น้ำในบริษัท บริษัท จัสมิน ซัมมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด

แรกเริ่มเดิมที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กจนสอบชิงทุนแพทย์ชนบท ของจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และเข้าฝึกงานในโรงพยาบาลร่วม 1 ปี แต่ก็มาเกิดจุดพลิกผันที่สำคัญในชีวิตเมื่อได้ไปดูงานนิทรรศการวิศวะของลาดกระบัง

“ตอนนั้นผมได้กลับมาชั่งใจถามตัวเองและได้คำตอบว่าชอบที่จะเป็นหมอเครื่อง มากกว่าหมอคน รู้ตัวเองว่าเป็นคนใจอ่อนขี้สงสารคนไม่เหมาะที่จะเป็นหมอคน และพบว่าการเป็นหมอเครื่องท้าทายมากกว่าเพราะต้องคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา"

หลังจากค้นพบตัวเองก็ขอสละสิทธิ์โควต้าแพทย์ชนบทจุฬาฯ เพื่อไม่ให้รุ่นน้องต่อไปเสียสิทธิ และหันมามุ่งมั่นสมัครโครงการวิศวะช้างเผือกลาดกระบังรุ่นที่ 1 โครงการที่ต้องการกระจายโอกาสไปถึงเด็กต่างจังหวัดที่ขาดแคลน จนสำเร็จด้วยผลสอบเป็นอันดับหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา

“หลังจากผมเข้าเรียนก็ได้ปรึกษากับคณบดีวิศวะว่าสาขาไหนดีที่สุด ก็ได้ข้อสรุปว่าวิศวะสื่อสารน่าจะมีโอกาสมากที่สุดเพราะเชื่อว่าอนาคตประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาด้านระบบสื่อสารอย่างมากแน่นอน และผมก็เดาถูกเพราะตอนผมเรียนปี 3 ประเทศไทยก็มีโครงการโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมายเกิดขึ้น“

ทำงานมากับจัสมินตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน เป็นเพราะหลงใหลวัฒนธรรมการทำงาน ที่ปล่อยให้พนักงานทุกคนแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ไม่มีการตีกรอบหรือมีหลักเกณฑ์ใดๆกำหนดไว้ทำให้สามารถช่วยกันคิดและพัฒนาบริษัทได้อย่างเต็มที่

เมื่อ10 ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปสำรวจประเทศจีนในฐานะผู้เชียวชาญเทคโนโลยีใหม่ เพราะจัสมินมีแผนทำธุรกิจฟิกซ์ไลน์ และโทรศัพท์มือถือ สมัยนั้นประเทศจีนยังมีระบบสื่อสารที่ล้าหลังประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันประเทศไทยกลับล้าหลังจากจีนมาก ปัจจัยนี้นับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญทำให้เราหันมาศึกษาหาประสบการณ์ธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศด้วยการออกตะเวนหาข้อมูลจากทุกมุมโลกล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเกิด คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) 2 ปี

“เราหวังว่าจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็ก ที่ช่วยต่อเติบให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบสื่อสารและประเทศไปให้ทันกับประเทศที่เคยล้าหลังเราแต่วันนี้เค้ากลับนำหน้าเรา และถีบตัวเองหนีประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนาไล่หลังให้ได้”

เมื่อตระเวนออกหาข้อมูลจนครบถ้วน จึงเป็นเอกชนรายแรกที่เข้ายื่นขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง โดยได้นำข้อมูลและโครงการแผนการเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดจัสเทลเป็นเวลาเพียง 1ชั่วโมงบอร์ด ก็อนุมัติให้ดำเนินการ ตอนนั้นได้ยื่นขอเงินลงทุน จากบริษัทแม่ 220 ล้านบาท พร้อมกับให้สัญญาว่าจะคืนเงินให้ 1,000 ล้านบาทใน 2 ปี แต่ที่ผ่านมาครึ่งปี สามารถคืนเงินไปแล้ว 500 กว่าล้านบาท

จัสเทลประกอบด้วยคนรุ่นใหม่อายุไม่ถึง 40 ปีรวมตัวทำงานร่วมกัน ประมาณ 50 ชีวิต ได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรมการทำงาน ให้ฝ่ายปฎิบัติงานตั้งแต่ระดับล่างสามารถนำเสนอความคิดมายังระดับสูงได้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ โดยฝ่ายบริหารจะทำหน้าที่กำกับดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่เข้ามาล้วงลูกมากนัก

การถูกวางตัวให้มาเป็นผู้ปลุกปันธุรกิจใหม่ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็นับว่าโชคดีที่ได้ประสบการณ์จากการได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการวางแผนยุทธศาสตร์ธุรกิจใหม่ให้กับจัสมิน ทำให้เห็นภาพกระแสทั่วโลก จนสามารถทำนายอนาคตสื่อสารและวงแผนการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนง่ายขึ้น

ประกอบกับมีความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจสัมปทาน เคเบิลใต้น้ำมานานหลายปี จึงมีคอนเน็คชั่นกับโกลเบอร์โอเปอร์เรเตอร์ เป็นอย่างดีทำให้สามารถติดต่อประสานงานร่วมทำธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

“กับหน้าที่ที่ได้รับยอมรับว่าท้าทาย แต่ผมโชคดีที่ดีรับโอกาศอยู่ในหนึ่งคณะกรรมการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ ทำให้ได้เห็นเทรนด์ของโลกว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ประกอบกับได้ประสบการณ์จากงานสัมปทานเคเบิลใต้น้ำที่ตั้งอาศัยการติดต่อประสานงานร่วมกันผู้ประกอบการรายใหญ่ของแต่ละประเทศจนช่วยให้สามารถติดต่อประสานงานทำธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศง่ายขึ้นด้วย”

จัสมินเห็นโอกาสในธุรกิจเกตเวย์ต่างประเทศเนื่องจาก เห็นว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจต้นน้ำ ความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศมีแนวโน้มต้องการความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการเข้ามาจับธุรกิจกลุ่มนี้ด้วยการช่วยให้ผู้ประกอบการอินเตอร์เน็ตรายย่อย (ISP) สามารถเชื่อมต่อออกต่างประเทศได้เร็วขึ้นและมีราคาถูกลงจะช่วยให้ผู้ใช้ตามบ้านมีต้นทุนการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ถูกลง ทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น

จัสเทลไม่ได้วางตัวเองเพื่อที่จะไปแข่งขันกับ กสท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเกตเวย์ต่างประเทศในไทยเพียงรายเดียวมายาวนาน แต่กลับวางตัวเองเป็นผู้เข้ามาเติบเต็มช่องวางในตลาดที่ยังขาดอีกมาก เพราะที่ผ่านมาเล็งเห็นมาโดยตลอดว่าสาเหตุที่ทำให้ไฮสปีดอินเตอร์เน็ตในไทยล่าช้าเป็นเพราะยังขาดเกตเวย์ออกต่างประเทศ และยังวางตัวเองพร้อมเป็นพาตเนอร์กับผู้ประกอบการทุกรายเพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนในประเทศ

ทั้งยังวางเป้าหมายตัวเองให้กลายเป็น “ฮับ” ในภูมิภาคอินโดจีนและเชื่อว่าจะค่อย ๆ ไต่ตัวขึ้นไปเป็น “ฮับ”ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหาก สามารถทำเป้าหมายแรกให้ลุล่วงได้ คงต้องรอพิสูจน์ฝีมือคนหนุ่มไฟแรงคนนี้ว่าเค้าจะสามารถผลักดันจัสเทลให้ไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น