กลุ่มสามารถมั่นใจธุรกิจอี-เลิร์นนิ่งบูมใน 2 ปี ผลจากโครงการไอพีบรอดแบนด์ 1 ล้านพอร์ตของทีโอทีและเทคโนโลยี 3G ช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น ล่าสุดร่วมทดสอบอินเตอร์แอ็กทีฟ อี-เลิร์นนิ่งหรือการเรียนการสอนผ่านดาวเทียมลดช่องว่างนักเรียนชนบทกับในเมืองและปัญหาขาดบุคลากรครู
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า ธุรกิจอี-เลิร์นนิ่งประเทศไทยในปัจจุบันนับว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้น โดยปีที่ผ่านมา เพิ่งทำรายได้ให้บริษัทเป็นหลัก 10 ล้านบาท เนื่องจากให้บริการเฉพาะการเช่าใช้ระบบ แต่เชื่อว่าในอีก 2 ปีหลังจากนี้ธุรกิจอี-เลิร์นนิ่งจะมีการใช้งานที่หลากหลายและเติบโตเพิ่มขึ้น
เนื่องจากขณะนี้บริษัท ทีโอทีกำลังลงทุนสร้างบรอดแบนด์ไอพี 1 ล้านพอร์ต ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศสูงขึ้น ประกอบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศกำลังลงทุนเทคโนโลยี 3G ซึ่งจะให้บริการแพร่หลายในปีหน้า อีกทั้งราคาโน้ตบุ๊ก และพีซีมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้นักเรียนนักศึกษาในประเทศมีกำลังซื้อใช้งานมากขึ้น
‘ที่ผ่านมาอี-เลิร์นนิ่งในประเทศไทยถือเป็นเพียงช่วงเริ่มต้น เพราะความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังมีข้อจำกัด ทั้งข่ายสายโทรศัพท์ไปไม่ถึง เทคโนโลยีไร้สายยังมีความเร็วไม่มาก และอุปกรณ์ลูกค้ายังมีราคาสูง แต่เราคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าธุรกิจนี้จะเติบโตเพราะภาครัฐมีการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนในประเทศ และอุปกรณ์ลูกข่ายมีราคาต่ำลงต่อเนื่อง’
ทั้งนี้ สามารถได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ทดลองจัดทำโครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ (interactive e-learning) ให้บริการการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม(MOE Channel)รูปแบบการสื่อสาร 2 ทาง โดยในระหว่างการสอนนักเรียนปลายทางสามารถซักถามข้อสงสัยได้ทันที ทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม
ทั้งนี้ สามารถจะเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์สื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ห้องสตูดิโอเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางถ่ายทอดการเรียนการสอนไปยังโรงเรียนปลายทาง พร้อมทั้งระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ และพัฒนาเนื้อหาให้เหมาะสมเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ส่วนกระทรวงศึกษาฯจะเป็นผู้จัดเตรียมเนื้อหาสื่อการเรียนการสอนที่ต้องใช้ และจัดหาครูผู้ที่สามารถให้ความรู้ผ่านดาวเทียมแก่นักเรียนปลายทางได้
“โครงการนี้จะสามารถช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงการเรียนการสอนระหว่างนักเรียนชนบทกับนักเรียนในเมืองใหญ่ แก้ปัญหาการขาดแคลนครูและเนื้อหาประกอบการสอน ซึ่งเบื้องต้นจะเริ่มทำกับกลุ่มนักเรียนมัธยมต้นและกระทรวงศึกษายังมีแผนขยายโครงการเข้าไปในระดับประถมปลาย และอุดมศึกษา”
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาฯจะได้รับจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการนี้ประจำปีงบประมาณ 2552 ในเดือนต.ค. 51 จำนวน 400 ล้านบาท และกระทรวงฯจะดำเนินการจัดการประกวดราคาหาผู้ทำระบบเร็วๆนี้
นายวัฒน์ชัยกล่าวว่าโครงการอินเตอร์แอ็กทีฟ อี-เลิร์นนิ่ง นับเป็นโครงการที่ 2 ที่กลุ่มสามารถได้รับจากกระทรวงศึกษาธิการโครงการแรกคือโครงการอินเทอร์เน็ตโรงเรียน (School net) ทให้โรงเรียนกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งโครงการใหม่นี้จะเข้าไปเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนในต่างจังหวัดให้ดีขึ้น
สำหรับโครงการอินเตอร์แอ็กทีฟ อี-เลิร์นนิ่งได้กำหนดเป็น Flagship project บรรจุไว้ในแผนการบริหารราชการแผ่นดินระยะ 4 ปี(2551-2554) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้การสอนให้มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนครู และกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ในช่วงประถม4-ประถม6 และช่วงมัธยม 1-3
Company Related Links :
Samart