เอปิคอร์ ซอฟต์แวร์ ผู้ให้บริการ ซอฟต์แวร์โซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจในตลาดระดับกลาง ให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดในประเทศไทยโดยการจัดตั้งสำนักงานแห่งแรกในไทย เพื่อช่วยคู่ค้าทำตลาด ให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดจนทำตลาดเองอีกด้วย ตั้งเป้าเติบโตในไทยปีนี้ 100%
ไบรอัน ตัน รองประธานบริหารฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชีย และพูนศักดิ์ วรวัฒนกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอปิคอร์เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์โซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง มีประสบการณ์เป็นผู้ทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ซอฟต์แวร์ของเอปิคอร์เป็นที่รู้จักในวงกว้างครอบคลุมในทุกส่วนภาค สำหรับภาคการผลิตให้บริการโซลูชันผลิตทั้งระบบตั้งแต่การวางแผน ประเมินต้นทุนและชิ้นงาน กำหนดการผลิต และอื่นๆ โดยโซลูชันของเอปิคอร์มีความโดดเด่นกว่าซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรสำหรับองค์กร หรือ (ERP) แบบดั้งเดิม จากการทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายปัจจุบันมีฐานลูกค้าในประเทศไทยกว่า 30 ราย
ล่าสุดเอปิคอร์เห็นความสำคัญที่จะขยายตลาดในไทยให้มากยิ่งขึ้น จึงเข้ามาตั้งสำนักงานในไทยที่อาคารเพรสซิเดนท์ ทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต โดยมีทีมงานหลักที่ประจำในสำนักงานแห่งใหม่นี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย การตลาด ทีมที่ปรึกษา เพื่อช่วยตัวแทนจำหน่ายในการดูแลลูกค้า พร้อมทั้งเป็นผู้ทำตลาดเองอีกด้วยในตลาดที่ตัวแทนจำหน่ายต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งจากก่อนหน้านี้การดูแลซัปพอร์ตลูกค้าจะทำผ่านตัวแทนจำหน่ายและสำนักงานที่ประเทศมาเลเซียเป็นหลัก
ผู้บริหารเอปิคอร์กล่าวว่า เอปิคอร์มีความเชี่ยวชาญในตลาดมิดเรนจ์ หรือธุรกิจขนาดกลางโดยเฉพาะในตลาดแมนแฟกเจอริ่ง รีเทล ไฟแนนเชียล มีฐานลูกค้าทั่วโลกกว่า 2 หมื่นบริษัท ที่ผ่านมาการเติบโตของรายได้ 55% มาจากประเทศในแถบอเมริกา และอีก 40% เป็นรายได้มาจากประเทศในแถบเอเชียและยุโรป โดยการเติบโตขององค์กรมากกว่าการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในปี 2008 เอปิคอร์ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการให้ความสำคัญกับ 4 ตลาดหลัก แมนูแฟกเจอริ่ง ดีสทริบิวชัน รีเทล และเซอร์วิส
นอกจากโซลูชันที่มีอยู่เอปิคอร์เตรียมเปิดตัว “EPICOR 9” โปรดักต์ใหม่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะมาช่วยให้ลูกค้าต่อเชื่อมข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากการตั้งสำนักงานในไทยแล้วเอปิคอร์ยังมีนโยบายในการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 4 ราย เพื่อช่วยขยายตลาดใหม่ๆโรงแรม และธุรกิจบริการให้มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาเอเชียแปซิฟิกสามารถทำรายได้ให้เอปิคอร์ได้ประมาณ 8% โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 21% ส่วนประเทศไทยหลังเข้ามาตั้งสำนักงานเอปิคอร์ตั้งเป้าว่าจะมีการเติบโตประมาณ 100% ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งมาจากการทำตลาดจากตัวแทนจำหน่ายและอีกครึ่งมาจากเอปิคอร์ทำตลาดเอง
ส่วนภาพรวมทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการเมือง ผู้บริหารเอปิคอร์มองว่าไม่น่าจะส่งกระทบ โดยคิดที่จะลงทุนต่อเนื่องในเมืองไทยเพราะเห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์รวมทางด้านลอจิสติกส์ ซึ่งทุกประเทศก็ยอมรับกันและยังมีแผนที่จะมาลงทุนอย่างต่อเนื่องในไทย
Company Related Links :
Epicor
ไบรอัน ตัน รองประธานบริหารฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชีย และพูนศักดิ์ วรวัฒนกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอปิคอร์เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์โซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง มีประสบการณ์เป็นผู้ทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ซอฟต์แวร์ของเอปิคอร์เป็นที่รู้จักในวงกว้างครอบคลุมในทุกส่วนภาค สำหรับภาคการผลิตให้บริการโซลูชันผลิตทั้งระบบตั้งแต่การวางแผน ประเมินต้นทุนและชิ้นงาน กำหนดการผลิต และอื่นๆ โดยโซลูชันของเอปิคอร์มีความโดดเด่นกว่าซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรสำหรับองค์กร หรือ (ERP) แบบดั้งเดิม จากการทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายปัจจุบันมีฐานลูกค้าในประเทศไทยกว่า 30 ราย
ล่าสุดเอปิคอร์เห็นความสำคัญที่จะขยายตลาดในไทยให้มากยิ่งขึ้น จึงเข้ามาตั้งสำนักงานในไทยที่อาคารเพรสซิเดนท์ ทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต โดยมีทีมงานหลักที่ประจำในสำนักงานแห่งใหม่นี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย การตลาด ทีมที่ปรึกษา เพื่อช่วยตัวแทนจำหน่ายในการดูแลลูกค้า พร้อมทั้งเป็นผู้ทำตลาดเองอีกด้วยในตลาดที่ตัวแทนจำหน่ายต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งจากก่อนหน้านี้การดูแลซัปพอร์ตลูกค้าจะทำผ่านตัวแทนจำหน่ายและสำนักงานที่ประเทศมาเลเซียเป็นหลัก
ผู้บริหารเอปิคอร์กล่าวว่า เอปิคอร์มีความเชี่ยวชาญในตลาดมิดเรนจ์ หรือธุรกิจขนาดกลางโดยเฉพาะในตลาดแมนแฟกเจอริ่ง รีเทล ไฟแนนเชียล มีฐานลูกค้าทั่วโลกกว่า 2 หมื่นบริษัท ที่ผ่านมาการเติบโตของรายได้ 55% มาจากประเทศในแถบอเมริกา และอีก 40% เป็นรายได้มาจากประเทศในแถบเอเชียและยุโรป โดยการเติบโตขององค์กรมากกว่าการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในปี 2008 เอปิคอร์ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการให้ความสำคัญกับ 4 ตลาดหลัก แมนูแฟกเจอริ่ง ดีสทริบิวชัน รีเทล และเซอร์วิส
นอกจากโซลูชันที่มีอยู่เอปิคอร์เตรียมเปิดตัว “EPICOR 9” โปรดักต์ใหม่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะมาช่วยให้ลูกค้าต่อเชื่อมข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากการตั้งสำนักงานในไทยแล้วเอปิคอร์ยังมีนโยบายในการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 4 ราย เพื่อช่วยขยายตลาดใหม่ๆโรงแรม และธุรกิจบริการให้มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาเอเชียแปซิฟิกสามารถทำรายได้ให้เอปิคอร์ได้ประมาณ 8% โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 21% ส่วนประเทศไทยหลังเข้ามาตั้งสำนักงานเอปิคอร์ตั้งเป้าว่าจะมีการเติบโตประมาณ 100% ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งมาจากการทำตลาดจากตัวแทนจำหน่ายและอีกครึ่งมาจากเอปิคอร์ทำตลาดเอง
ส่วนภาพรวมทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการเมือง ผู้บริหารเอปิคอร์มองว่าไม่น่าจะส่งกระทบ โดยคิดที่จะลงทุนต่อเนื่องในเมืองไทยเพราะเห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์รวมทางด้านลอจิสติกส์ ซึ่งทุกประเทศก็ยอมรับกันและยังมีแผนที่จะมาลงทุนอย่างต่อเนื่องในไทย
Company Related Links :
Epicor