อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ทีโอทีจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนจากการนำบริการอื่นมาใช้ผ่านโครงสร้างที่ทีแอนด์ทีสร้างคิดเป็นมูลค่า 23,778 ล้านบาท หลังพยายามยื่นข้อเสนอเพื่อขอเจรจาหลายครั้งแต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ จนต้องโยนให้อนุญาโตฯตัดสิน คิดเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ที่เป็นเหมือนวิบากกรรมของทีทีแอนด์ที ก่อนที่จะค้าความชนะ ด้านทีโอทีไม่สะทกสะท้าน เพราะจะยื่นศาลปกครองสูงสุด และเชื่อคดีต้องใช้ระยะเวลาพิจารณาอีกนาน ขณะที่ราคาหุ้น TT&T-JAS ควงคู่วิ่งชนซิลลิ่ง
วานนี้ (8 เม.ย.) นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายประสิทธชัย กฤษยรรยง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และทีมผู้บริหารบริษัท ทีทีแอนด์ที ได้เปิดเผยถึงคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการกรณีข้อพิพาทให้ทีโอทีชำระผลประโยชน์ตอบแทนจากการนำบริการอื่นมาใช้ผ่านโครงข่ายของทีทีแอนด์ที โดยผลตัดสินชี้ขาดกำหนดให้ทีโอทีต้องจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ทีทีแอนด์ทีไปจนกว่าจะสิ้นสุดอายุสัญญาร่วมการงาน ที่เบื้องต้นให้ชำระเงินที่ค้างจ่ายจำนวน 23,778 ล้านบาท (เป็นผลประโยชน์ตอบแทนจนถึงเดือน มี.ค. 2548) พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา MLR+1 ซึ่งเริ่มจาก 1 เม.ย. 2548 จนกว่าจะชำระหนี้ครบถ้วน
ทีทีแอนด์ทีเข้าสัญญาร่วมการงานกับทีโอทีตามสัญญาสร้างโอนและให้บริการ หรือบีทีโอเมื่อปี 2535 โดยมีอายุสัญญาสัมปทาน 25 ปี และขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 15 ปี ลงทุนสร้างโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในเขตภูมิภาคที่ได้รับสิทธิ์ในการให้บริการ 1.5 ล้านเลขหมาย คิดเป็นมูลค่า 57,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่โอนกรรมสิทธิให้ทีโอที และจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐไป 37,150 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 510 ล้านบาท รวมผลตอบแทนที่ทีโอทีได้รับจากทีทีแอนด์ที 94,660 ล้านบาท
ข้อพิพาทดังกล่าวทีทีแอนด์ทีพยายามยื่นข้อเสนอเพื่อขอเจราจาหลายครั้งตั้งแต่ปี 2538-47 แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ จนกระทั่งปี 2540-2545 ทีทีแอนด์ทีได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และปี 2548 ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ขอให้ทีโอทีชำระค่าผลประโยชน์ให้แก่ทีทีแอนด์ที
ส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดข้อพิพาทคือการที่ทีโอทีเปิดทางให้ผู้ให้บริการมือถือเข้ามาเชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน จนทำธุรกิจมือโตอย่างรวดเร็ว จากการเข้ามาใช้โครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน ผู้บริหารทีทีแอนด์ทีได้เปรียบโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานเป็นเสมือนถนน ซึ่งมีด้วยกัน 3 สายคือ ของทีทีแอนด์ที ที่ให้บริการในเขตภูมิภาค โดยเปรียบสิ่งที่มาวิ่งบนถนนสายนี้คือรถกระบะ อีกสายคือของกลุ่มทรูที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เปรียบสิ่งที่มาวิ่งเสมือนเป็นรถเก๋ง และถนนของทีโอทีที่ให้บริการทั่วประเทศ ที่เปิดให้ทั้งรถกระบะและรถเก๋งสามารถวิ่งได้
ขณะเดียวกันก็เปรียบผู้ให้บริการมือถือเหมือนรถสปอร์ต ที่ทีโอทีเปิดให้เชื่อมต่อเลขหมายเข้ากับโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน แล้วเรียกเก็บค่าบริการเลขหมายละ 200 บาทต่อเดือน โดยมีเลขหมายที่อยู่ภายใต้สัมปทานของ กสท โทรคมนาคม ที่ทีโอทีเรียกเก็บคิดเป็นมูลค่า 43,502 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งของทีทีแอนด์ที 8,391 ล้านบาท เลขหมายมือถือที่อยู่ภายใต้สัมปทานทีโอทีมีมูลค่า 81,296 บาทบาท คิดเป็นส่วนแบ่งของทีทีแอนด์ที 15,387 ล้านบาท ทั้งนี้ หากคิดร่วมมูลค่าทีโอทีเรียกเก็บค่าบริการพิเศษที่ผ่านโครงข่ายทีทีแอนด์ทีซึ่งเป็นผู้สร้างและให้บริการคิดเป็นมูลค่ากว่า 124,798 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนของทีทีแอดน์ที 23,778 ล้านบาท
“มูลค่าของตัวบริการที่ทีโอทีได้รับจากบุคคลภายนอกมาเท่าไหร่ ก็ใช้สูตร 3 รายเฉลี่ยว่าโครงข่ายใครมีเลขหมายที่เข้ามาใช้แค่ไหนก็ได้แค่นั้น” นายประสิทธชัย กล่าว
สำหรับทีทีแอนด์ทีมีข้อพิพาทกับทีโอทีที่อยู่ในขั้นตอนของอนุญาโตฯจำนวน 4 คดี และคดีนี้เป็นคดีแรกที่อนุญาโตฯชี้ขาดให้เป็นฝ่ายชนะ ขณะที่หนี้สินของทีทีแอนด์ทีขณะนี้มีประมาณ 1.8-1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งหนี้ในประเทศ และหนี้ที่ซัปพลายเออร์ให้การสนับสนุน
“สิ่งที่เราต่อสู้มาต้องบอกว่าเป็นวิบากกรรมของทีทีแอนด์ที่ ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปี” นายประจวบ กล่าว
***ทีโอทีไม่สะดุ้งอุทธรณ์ศาลปกครอง
ด้านนายสุเทพ ศรีสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารการลงทุน และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกฎหมาย บริษัท ทีโอที กล่าวว่า กรณีที่อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ทีโอทีจ่ายค่าตอบแทนจากการนำบริการอื่นมาใช้ผ่านโครงข่ายทีทีแอนด์ที หลังจากนี้ ทีโอที จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลาง และศาลปกครองกลางก็จะดำเนินการพิจารณาคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯ โดยไม่มีการเรียกข้อมูลเอกสารหรือนัดไต่สวนเพิ่ม ก่อนจะพิจารณาว่าจะยืนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตฯ หรือล้มคำตัดสินของอนุญาโตฯ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกนานถึงจะได้ข้อสรุป
“คำตัดสินของอณุญาโตฯครั้งนี้ไม่น่าตื่นเต้น เพราะทีโอทีจะดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลางทันที และหากศาลปกครองกลางมีคำตัดสินผู้แพ้คดีจะต้องดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอีก”
***หุ้นวิ่งชนซิลลิ่งรับข่าวดี
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกลุ่มบมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) วานนี้ (8 เม.ย.) ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า รวมถึงหุ้นสามัญและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS, JAS-W และ JAS-W2)
โดย TT&T ปิดที่ 1.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท คิดเป็น 30.43% มูลค่าการซื้อขาย 459.63 ล้านบาท ,JAS ปิดที่ 0.39 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท คิดเป็น 21.87% มูลค่าการซื้อขาย 131.38 ล้านบาท, JAS-W ปิดที่ 0.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท คิดเป็น 20.00% มูลค่าการซื้อขาย 4.14 ล้านบาท และ JAS-W2 ปิดที่ 0.09 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท คิดเป็น 28.57% มูลค่าการซื้อขาย 9.91 ล้านบาท
Company Related Links :
TT&T