ทีทีแอนด์ที ตั้งเป้ากวาดลูกค้าบรอดแบนด์ปีนี้แตะ 5 แสนราย ทำรายได้ 3,000 ล้านบาทแซงหน้ารายได้โทรศัพท์บ้าน มั่นใจหากไม่มีการลงทุน 3G ไว-แมกซ์ คุ้มทุนแน่ จับมือ 5 ยักษ์โทรคมนาคมโลกเชื่อมต่อเกตเวย์ออกต่างประเทศ ขยายแบนด์วิดท์เพิ่มหนึ่งเท่าตัว
นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิส บริษัทในเครือทีทีแอนด์ที กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามียอดลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนราย จากปีที่ผ่านมามียอดลูกค้าบรอดแบนด์ เกือบ 3.5 แสนราย รวมทั้งยังตั้งเป้าหมายรายได้ปลายปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา มีรายได้ราว1,600-1,800ล้านบาท ซึ่งหากสามารถทำรายได้ ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จะส่งผลให้รายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์เพิ่มสูงขึ้นกว่ารายได้จากโทรศัพท์พื้นฐานที่ทำรายได้ 2,600 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มลงเพราะรายได้ต่อเลขหมายของโทรศัพท์บ้านยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
“แนวโน้มผลการดำเนินงาน ในปีนี้ รายได้รวมน่าจะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 5-10% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้า ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ มาอยู่ที่ 5 แสนราย ภายในปีนี้ หลังจากที่บริษัทลงทุนเพื่อขยายแบรนด์วิดท์ ให้มีประสิทธิภาพและมีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม ในปีนี้คงยังไม่เห็นกำไร แต่เราก็พยายามทำผลการดำเนินงานให้ดีที่สุด ในช่วงที่ผ่านมาเราลงทุนกับโครงการใหญ่ๆ ค่อนข้างสูง จึงทำให้มีค่าเสื่อมราคาอยู่ที่ประมาณ 5-6 พันล้านบาท และเราคงต้องปรับรีเอ็นจิเนียริ่งองค์กรใหม่”นายประจวบกล่าว
อย่างไรก็ดี ปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนขยายแบนด์วิดท์ออกต่างประเทศ ด้วยงบการลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้แบนด์วิดท์ของบริษัทสามารถให้บริการแก่ลูกค้ามีขนาดเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 เท่าตัว จาก 1.9 Gbps เป็น 3.8 Gbps
โดยการลงทุนครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังต่อเชื่อมเกตเวย์ออกต่างประเทศรวมกับ 5 บริษัทยักษ์โทรคมนาคมของโลก ได้แก่ Hutchison Global Communication โดยขยายแบนด์วิดท์ 2 เส้นทางเพิ่มขึ้นเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อ Internet Node ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง, KT Networks โดยขยายแบนด์วิดท์ 2 เส้นทางเพิ่มขึ้นเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อ Internet Node เมืองลอสแองเจริส, Verizon Business เชื่อมต่อเข้า Internet Node กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ขนาด 155 Mbps NTT Communication เชื่อมต่อเข้า Internet Node ที่ประเทศ สิงคโปร์ ขนาน 622 Mbps และ TATA Comunication (VSNL) เชื่อมต่อเข้า Internet Node ที่ประเทศสิงคโปร์ ขนาด622 Mbps
ทั้งนี้ การลงทุนเชื่อมต่อเกตเวย์ออกต่างประเทศครั้งนี้ทำให้ ลูกค้าที่ใช้งานบรอดแบนด์ของบริษัทสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตออกต่างประเทศได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ประกอบกับบริษัทเองยังสามารถลดต้นทุนค่าเชื่อมเกตเวย์ลงไปได้ถึง 3 เท่า หลังจากหยุดเช่าใช้เกตเวย์ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม และเปลี่ยนมาลงทุนสร้างเกตเวย์อินเทอร์เน็ตออกต่างประเทศเป็นของตนเอง โดยเมื่อบริษัทมีลูกค้าถึง 5 แสนราย บริษัทมีแผนลงทุนเฟส 2 เพิ่มโดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50 %ของเงินลงทุนในเฟส แรก
นายประสิทธชัย กฤษณยรรยง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีทีแอนด์ที เปิดเผยว่า หาก บริษัทมียอดลูกค้าบรอดแบนด์ จำนวน 5 แสนรายจะส่งผลให้บริษัทสามารถคุ้มทุนจากการดำเนินงาน แต่หากมีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างไว-แมกซ์ หรือ 3G การคุ้มทุนของบริษัทจะเลื่อนออกไปอีก 1-2 ปี
“จากปีก่อนรายได้หลักประมาณ 50% มาจาก บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิสเซส ประมาณ 3.4-3.5 พันล้านบาท และมาจากบริษัท ทริปเปิลที โกลบอล เน็ท ประมาณ 500 ล้านบาท ถ้าเรามีลูกค้าเพิ่มขึ้น 5-6 แสนราย ในปีหน้าก็มีโอกาสที่จะคุ้มทุน เพราะรายได้ 50% ของทีทีแอนด์ทีมาจาก ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีการลงทุนใหม่รวมอยู่ด้วย อาทิ ไว-แมกซ์ 3G เพราะหากมี 3G กับไว-แมกซ์จุดคุ้มทุนคงต้องเลื่อนไป 1-2 ปี" นายประสิทธชัย กล่าว
Company Related Links :
TT&T
