เอสเอ็มอี แบงก์ เปิดเวทีเจรจาธุรกิจ ดึง 20 บริษัทญี่ปุ่น เจอตัวจริงเสียงจริง SMEs ไทย หวังดันสินค้าไปขายประเทศญี่ปุ่น ระบุค้าขายญี่ปุ่นต้องดูดีผูกไทใส่สูท เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ที่สำคัญต้องรู้จริงตัวสินค้าแบบทะลุ
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 51 ที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมกับ JASME และ JETRO นำนักธุรกิจญี่ปุ่น 20 บริษัท มาร่วมเจรจาธุรกิจในลักษณะ Business Matching กับลูกค้าชั้นดีของธนาคารจำนวน 16 ราย เพื่อสร้างโอกาสขยายธุรกิจการค้าสู่ประเทศญี่ปุ่นอันเป็นเป้าหมายที่ธนาคารพยายามผลักดันมาตลอด ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นที่ร่วมเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีของประเทศญี่ปุ่น เป็น SMEs ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น
“การ Matching ครั้งนี้นำร่องในกลุ่มธุรกิจอาหาร โดยในส่วนลูกค้าธนาคาร ประกอบด้วย น้ำลูกยอแม่บัวศรี กุนเชียงเจ้ดา, น้ำอ้อยไร่ไม่จน, เก็จมุกดา, สุรใจฟูดส์ อินดัสทรี, บริษัท สยาม ฟิวเจอร์ฟาร์ม จำกัด เป็นต้น ซึ่งทุกรายต้องได้รับมาตรฐานสากล หรือ International Standard เช่น GMP, HACCP เป็นต้น นอกจากนี้ต้องแสดงข้อมูลปริมาณการผลิต รายได้ และจำนวนแรงงาน เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ประกอบการญี่ปุ่นพิจารณาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจร่วมกันด้วย”
โดยก่อนการจัดเวทีเจรจาธุรกิจในลักษณะการทำ Business Matching อย่างเป็นทางการครั้งนี้ ธนาคารได้เชิญผู้ประกอบการไทยอบรมเพื่อเตรียมความพร้อม จากนายครรชิต ศิริภักดี อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายอุตสาหกรรม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่ปรึกษาของเอสเอ็มอี แบงก์ และผู้เชี่ยวชาญตลาดประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้ามากกว่า 200 ราย
ทางญี่ปุ่นแนะนำว่า การทำ Business Matching ครั้งนี้เป็นการเจอหน้ากันโดยตรง สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการควรทำ คือ การสร้างความประทับใจ เช่น การแต่งกาย นักธุรกิจญี่ปุ่นเมื่อไปเจราจาการค้ากับใครเขาจะผูกไทใส่สูท ซึ่งผู้ประกอบการไทยเองจะต้องให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นการสร้างความประทับใจ สิ่งสำคัญที่สุดผู้ประกอบการไทยจะต้องมีความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นค่อนข้างจะสอบถามอย่างละเอียดลึกมาก
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาการค้าทั้งสองฝ่ายแล้ว ธนาคารจะเร่งทำการสรุปผลโครงการ เพื่อประเมินผลโครงการและหาข้อบกพร่อง เพื่อนำมาใช้ในแก้ไขและพัฒนา พร้อมกับทำฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในครั้งต่อไป
