อย. ร่สมกับ ปส. บุกทลายโรงงานผลิตน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอผิดกฎหมาย ย่านซอยอุดมสุข 51 จับ 4 ผู้ต้องหา ยึดของกลางหลายรายการ พบขายได้วันละกว่า 1 พันขวด
วันนี้ (11 พ.ย.) ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วรพจน์ ดิษยบุตร รอง ผบช.ปส. นพ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภก.ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปส.1 แถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ทลายโรงงานผลิตน้ำกระท่อม ซอยอุดมสุข 51 ซอยประวิตรและเพื่อน 14 แขวงบางจาก เขตพระโขนง สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ รวมทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ 1.นายวีระชาติ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.รดารัตน์ (สงวนนามสกุล) 3.น.ส.เนตรนภา (สงวนนามสกุล) และ 4.น.ส.สายชล (สงวนนามสกุล)
ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และ 4 (อัลปราโซแลม,โซลพิเดม) โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 (อัลปราโซแลม,โซลพิเดม) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว
ตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบ ได้แก่ 1.ยาแก้ไอ 27,500 ขวด 2.ยาเม็ดทรามาดอล 50,000 เม็ด 3.Zopiclone 1,000 เม็ด 4.Diazepam 1,500 เม็ด และสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ อาทิ บ้าน ที่ดิน รถยนต์ เครื่องประดับ ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) กรุงเทพมหานคร ได้ทำการตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ซึ่งส่งออกไปนอกราชอาณาจักรไทย ปลายทางรับประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลจนสามารถออกหมายจับ และทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน รวมถึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 ได้จำนวนมาก และสามารถตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด รวมมูลค่า 200 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) กรุงเทพมหานคร ได้สืบสวนขยายผลจนทราบถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายเพิ่มเติม ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาและจัดส่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และ 4 ดังกล่าวให้กับกลุ่มร้านขายยาในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กลุ่มเยาวชน และนักท่องเที่ยวกลางคืน ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหา 3 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า จากการสืบสวน ติดตาม ตรวจสอบข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับกลุ่มบุคคลในเครือข่ายนี้เพิ่มเติมได้ จำนวน 4 คน
จากการขยายผลการจับกุมการลักลอบจำหน่าย Alprazolam และ lorazepam ของ บช.ปส. ร่วมกับ สำนักงาน อย. ลงพื้นที่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ทลายเครือข่ายวัตถุออกฤทธิ์ข้ามชาติ” สถานที่เก็บ สถานที่จำหน่าย และสถานที่ผลิตน้ำกระท่อมจำนวน 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.อาชยนกล่าวว่า ผู้ต้องหาลักลอบเปิดโรงงานมานานกว่า 2 ปี โดยจะนำยาแก้ไอ และทรามาดอล พร้อมด้วยน้ำหวานยี่ห้อต่างๆ มาผสม กับน้ำกระท่อม บรรจุขวดหลายขนาด อีกทั้งยังจะมีการปรุงรสทั้งแต่งเติมกลิ่นและสีเพื่อง่ายๆ ต่อการกินของเด็ก และได้จัดจำหน่ายในพื้นที่ กทม. โดยสูตรปกติจะขายอยู่ที่ราคา 75 บาท และหากผสมสารออกฤทธิ์ก็จะขายราคาที่แพงขึ้น โดยใน 1 วันจะมีการผลิตหลายรอบ และขายได้กว่า 1,000 ขวดต่อ 1 วัน และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม 3 ดีลเลอร์ใหญ่ ที่เป็นผู้จำหน่าย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนรายอื่นอยู่ระหว่างการขยายผล
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่คลินิกจะนำยาเหล่านี้ไปใช้ วันนี้ที่เราได้จับเป็นส่วนบนสุดของผู้ทำและเป็นผู้สั่งนำเข้านำยามาจากที่ไหนสักที่หนึ่งเพราะฉะนั้น เราจะมีการขยายผลและสอบปากคำเพิ่มเติม
ด้าน ภญ.สุภัทรากล่าวว่า สำหรับยาทรามาดอล เป็นยาที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของ อย. ในการผลิตและจัดจำหน่าย ส่วนจะมีการนำเข้าหรือว่าผลิตในประเทศ ตอนนี้ต้องขอตรวจสอบ ยืนยันว่า ยาดังกล่าว การที่จะออกมาสู่ท้องตลาดได้ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.


