ลำปาง - ตำรวจบุกรวบ 3 โจ๋เปิดร้านขายกัญชาหลังตลาดดังลำปางไม่พอ ลอบขายยาเขียวเหลือง สูตร 4 คูณ 100 ให้เยาวชนซ้ำ
วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ลำปางนิยมซื้อยาเขียวเหลืองมาผสมเครื่องดื่มดื่มเพื่อให้เกิดความมึนเมา พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามหาแหล่งจำหน่ายยาดังกล่าว
กระทั่งทราบแน่ชัดว่าเยาวชนซึ่งมีทั้งนักเรียน นักศึกษามักจะเข้าไปซื้อยาอันตรายชนิดนี้ที่อาคารพาณิชย์ย่านหลังตลาดอัศวิน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ฯ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบ
จากการตรวจค้นภายในร้าน พบของกลางจำนวน 21รายการ เป็นยาอันตรายที่ลักลอบจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่น และนักเรียนนักศึกษา จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ยาทรามาดอล ชนิดแคปซูล สีเขียว-เหลือง ยี่ห้อ MATHADOL, ยา CETIRIZINE [DIHYDROCHORIDE] ชนิดน้ำ ยี่ห้อฟาเทค ไซรัป และยา BENZHEXOL HYDROCHLORIDE (B5/บีไฟว์)
เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด พร้อมจับกุมนายจิรเมธ อายุ 19 ปี (ผู้ต้องหาที่ 1), นายพงศรุต อายุ 20 ปี (ผู้ต้องหาที่ 2), นายเกษมศักดิ์ อายุ 18 ปี (ผู้ต้องหาที่ 3) สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้สั่งซื้อยาดังกล่าวมาจากช่องทางออนไลน์ แล้วนำมาจัดชุดแบ่งจำหน่าย 1 ชุด ประกอบด้วย แคป 1 แผง (ทรามาดอล) และฟา 1 ขวด (ฟาเทค) ราคา 130 บาท และยา B5 (BENZHEXOLHYDROCHLORIDE) บรรจุใส่ถุงละ 10 เม็ด ราคา 50 บาท โดยจำหน่ายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย นัดส่งยาตามสถานที่ต่างๆ ในตัวเมืองลำปาง
เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันผลิต ขาย หรือนำสั่งเข้าในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510” และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 “จำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาตตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2565, พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา พ.ศ. 2542” ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ยาทั้ง 3 ชนิดนี้จัดเป็นยาอันตราย ออกฤทธิ์เกี่ยวกับระบบประสาท จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร สามารถซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ต้องได้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) และจำหน่ายโดยเภสัชกรหรือตามแพทย์สั่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.พิรชัช ปากเพรียว รอง ผกก.สืบสวนภูธร จ.ลำปาง เปิดเผยว่ายาดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่วัยรุ่นจะแกะยาที่อยู่ในแคปซูลออกมาผสมกับยาแก้แพ้แล้วนำแบ่งผสมน้ำอัดลมดื่ม หลังจากนั้นจะมีอาการเคลิ้ม โดยขณะนี้ได้แพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่นชายและวัยรุ่นหญิง ซึ่งยาดังกล่าวถือว่าอันตราย จึงขอฝากเตือนไปยัง ผู้ปกครองให้ดูแลและจับตาดูเด็กเยาวชนในความปกครองด้วย