xs
xsm
sm
md
lg

“ณวัตน์” แจ้งเอาผิด IO โอนเงินก่อกวน จี้ตรวจสอบมูลนิธิ "กัน จอมพลัง" เพื่อความโปร่งใส ลั่นคืนเงิน 5 หมื่น ส่งตรงถึงเจ้าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายณวัตน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
“ณวัตน์ อิสรไกรศีล” บอสใหญ่เวทีมิสแกรนด์ เดินหน้าเอาผิด IO โอนเงินก่อกวนหลังโพสต์ทวงเงินบริจาคมูลนิธิกัน จอมพลัง พร้อมจี้เปิดบัญชีรายรับรายจ่ายให้โปร่งใส ลั่นคืนเงิน 5 หมื่นบาทด้วยเช็ก ส่งตรงถึงเจ้าตัว



วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายณวัตน์ อิสรไกรศีล หรือ “บอส ณวัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รองผู้บังคับการ บก.สอท.1 เพื่อแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคลที่ใช้บัญชี IO โอนเงินจำนวนเล็กน้อยพร้อมคอมเมนต์หยาบคาย เพื่อก่อกวนและเรียกร้องเงินคืน

นายณวัตน์ เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากตนออกมาโพสต์ขอเงินบริจาคคืนจาก “มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้” โดยมีผู้ใช้บัญชีจำนวนมากกว่า 100 บัญชี โอนเงินเข้ามาตั้งแต่ 1 สตางค์ถึง 3 บาท เพื่อกลั่นแกล้ง ซึ่งในวันนี้ได้นำหลักฐานมาแจ้งความเหลือเพียง 60 บัญชี

"บางรายได้ติดต่อมาสารภาพและขอไม่ให้ดำเนินคดี โดยบางคนถึงขั้นขับรถมาจากต่างจังหวัด เช่น จังหวัดจันทบุรี เพื่อขอขมา หลังโอนเงินเพียง 1 สตางค์ พร้อมย้ำว่าการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดและไม่คุ้มค่ากับผลที่ตามมา"นายนวัตน์ กล่าว


นายณวัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีเงินบริจาค 50,000 บาท ที่ “กัน จอมพลัง” โอนคืนมาให้ว่า ยังไม่ถือว่าจบเรื่อง เพราะต้องการตรวจสอบรายละเอียดบัญชีรายรับรายจ่ายของมูลนิธิอย่างโปร่งใส พร้อมตั้งคำถามถึงการใช้เงินสร้างถนนตามที่กัน จอมพลังอ้าง ว่าใช้เงินเท่าไร จ้างใคร และสร้างก่อนหรือหลังการบริจาค

ทั้งนี้ เจ้าตัวเตรียมคืนเงิน 50,000 บาท ให้กัน จอมพลัง โดยจะออกเช็กส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะรับหรือไม่รับก็ถือว่าทำหน้าที่ของตนเสร็จสิ้นแล้ว

นายณวัตน์กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องการให้ทุกภาคส่วนช่วยกันตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ เพื่อความโปร่งใสขององค์กรการกุศลในสังคม พร้อมยืนยันว่า “หากเป็นไปได้ ขอไม่ร่วมงานกันอีกในอนาคตจะดีกว่า”


ด้าน พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 เปิดเผยว่า การโอนเงินโดยไม่มีที่มาชัดเจนเช่นนี้ สร้างความยุ่งยากต่อการทำบัญชีของบริษัทมหาชน และอาจเข้าข่ายความผิด 2 ฐาน ได้แก่ 1. ความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 2. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 11 (2) กรณีส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ทั้งนี้ ตำรวจจะตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงตรวจสอบว่า บัญชีที่ใช้โอนเงินเหล่านี้เป็น “บัญชีม้า” หรือเกี่ยวข้องกับคดีอื่นหรือไม่ เพื่อดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น