ผบ.ตร. กำชับตำรวจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด (Mindset) ในการทำหน้าที่ พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้บริหาร ตร. ร่วมกับ กองบัญชาการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาทบทวนการสอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ราย ส.ต.อ. โดยทันที
วันนี้ (21 มี.ค.) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยตำรวจทั่วประเทศ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ที่ตั้งหน่วย
ผบ.ตร. ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2566 (นรต.รุ่นที่ 77) วันที่ 9 มีนาคม 2568 เพื่อให้ข้าราชการตำรวจทุกนายได้น้อมนำมายึดถือเป็นหลักอุดมคติในการทำงาน และให้ผู้บังคับบัญชาไปถ่ายทอดและปลูกฝัง พร้อมทั้งได้กำชับการปรับแนวความคิด (Mindset) เกี่ยวกับภารกิจ การปกป้อง พิทักษ์ เทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในด้านสวัสดิการ ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาเหตุเดือดร้อนต่าง ๆ ต้องแก้ไขในสิ่งที่ผิดและกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมายต้องไม่กระทำผิดเสียเอง ยึดมั่นในอุดมคติตำรวจ ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นต้นแบบและเป็นแบบอย่างที่ดี ยกย่อง เชิดชูเกียรติผู้ที่ประพฤติดีประพฤติชอบ ตำรวจต้องช่วยเหลือประชาชน พัฒนา ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะอยู่ในพื้นที่ มีความใกล้ชิดกับประชาชน ต้องรับฟังและทำความเข้าใจในความเดือดร้อนของประชาชน นำมาประสานงานช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ สั่งการให้ฝ่ายบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาทบทวนผลการสอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรราย ส.ต.อ. ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่ยื่นอุทธรณ์ได้ ขอให้พิจารณาด้วยความละเอียด รอบคอบ มีความเหมาะสมตามสายงาน เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย คำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ความตั้งในการรับราชการ แล้วรายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบโดยด่วน จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ ดูแล ใส่ใจกับสิทธิประโยชน์และสวัดิการ ขวัญกำลังใจอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
ในการประชุมดังกล่าว ผบ.ตร. ได้กำชับเพิ่มเติมว่า ให้ทุกหน่วยขับเคลื่อนนโยบาย 15 ข้อ ตามที่ได้มอบไว้ เตรียมแผนการดำเนินการต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กำชับการปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ การทำจิตอาสาในทุกพื้นที่ ตลอดจนให้ทุกหน่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา กระท่อม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง และหากพบว่ามีกรณีที่ตำรวจไปกระทำความผิด ให้ทุกกองบัญชาการ กองบังคับการ จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่นิ่งเฉย ไม่ล่าช้า ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อตำรวจ และประชาชนทั่วทุกพื้นที่มีความปลอดภัย และให้ความร่วมกับตำรวจในการทำงานต่อไป
