xs
xsm
sm
md
lg

ซ้อมไอ้เณรจับแก้ผ้า ทารุณกรรมในกองทัพ ความอัปยศ ที่ปราบไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ ซ้อมไอ้เณรจับแก้ผ้า ทารุณกรรมในกองทัพ ความอัปยศ ที่ปราบไม่ได้



ถ้อยคำสวยหรูตามแนวทางไอโอที่ว่า “ทหารเกณฑ์คือน้องคนสุดท้องของกองทัพ” ถูกหยิบยกขึ้นมาแซะเหล่าผู้บังคับบัญชาทหารอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการเปิดโปงคลิปหลักฐานการทำร้ายทหารเกณฑ์ให้สังคมได้รับรู้แบบหนังม้วนเก่าที่เอามาฉายใหม่ผ่านสื่อหลายสำนักตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ น้องคนสุดท้องที่ตกเป็นเหยื่อโดนซ้อมพร้อม ๆ กันในครั้งนี้ มีด้วยกันมากถึง 10 คน อีกทั้งยังถูกทรมานด้วยการสั่งแก้ผ้ายืนตากฝนนานหลายชั่วโมง ซึ่งเข้าข่ายความผิด พรบ. อุ้มหายและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

พฤติกรรมนอกรีดแต่ซ้ำรอยเดิม เหมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ เกิดขึ้นกับพลทหาร สังกัดค่ายอดิศร กองพลทหารม้าที่ 4 ซึ่งถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานนอแล ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้น้องสาวของพลทหารคนหนึ่งเพิ่งตกเป็นเหยื่อทารุณกรรม ได้เดินทางมาร้องเรียน พร้อมนำหลักฐานมายืนยันพฤติกรรมโฉดที่เกิดขึ้น ทำให้รู้ว่าพลทหารพี่ชายและเพื่อนถูกจ่ากองร้อยกับพวก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นต้น และอยู่ในอาการเมาสุรา ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายและทรมาน เป็นเวลาเกือบ 6 ชั่วโมง

โดยตลอดการกระทำนั้น ทุกคนถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนบางคนทนไม่ไหวล้มฟุบ แต่ก็ถูกกระทืบซ้ำจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือน้องสาวของเหยื่อ ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรม ยังระบุด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่พี่ชายของตนถูกนายสิบและจ่ากองร้อยทำร้ายร่างกาย ซึ่งครั้งนี้ถือว่าหนักสุด จนต้องออกมาขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบข้อเท็จจริงของเรื่องราวการกระทำผิดและการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่เกิดขึ้นในหน่วยทหาร

นอกจากนี้น้องสาวของเหยื่อ ยังให้รายละเอียดของการทารุณกรรมด้วยว่า นายสิบและจ่าที่ร่วมกันทำร้ายพลทหาร จะพยายามไม่ให้เกิดบาดแผลเป็นหลักฐาน แต่ให้เป็นการบาดเจ็บภายในร่างกาย เพื่อที่จะไม่ให้ มีร่องรอยที่จะยืนยันการกระทำของพวกตนหากมีการสอบสวนเกิดขึ้น อีกทั้งเมื่อในครั้งนี้ปรากฏเป็นข่าวพลทหารยังถูกสั่งให้พูดว่าที่โดนทำร้ายเพราะหนีจากฐานไปดื่มสุราจนเมากลับมา

ต่อมา พลทหารที่ตกเป็นเหยื่อ ให้ข้อมูลยืนยันว่า ตนเองกับเพื่อนถูกส่งมาประจำการที่ฐานปฏิบัติการแห่งนี้เป็นเวลา 10 เดือนแล้ว และถูกทำร้ายร่างกายในลักษณะนี้มาแล้วถึง 7 ครั้ง พร้อมกับโชว์ร่องรอยบาดแผลเท่าที่มีให้เห็น

ล่าสุด พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ออกมายอมรับว่า กรณีปรากฏข่าวพลทหารในสังกัดกองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ถูกนายสิบกับจ่ากองร้อยที่ดื่มเหล้าจนมีอาการเมา สั่งเรียกรวมกลางดึก ทำทารุณกรรมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งกองทัพบกพร้อมดูแลและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และได้แจ้งไปยังหน่วยต้นสังกัดให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งหากพบกระทำผิดจริงจะพิจารณาลงโทษตามตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยวินัยทหารอย่างเคร่งครัดไม่มีละเว้น

แต่เชื่อเถอะว่า แม้กองทัพบกจะออกมาให้ข่าวเช่นนั้น แต่สุดท้ายแล้วเรื่องก็จะเงียบหายไปกับสายลม เหมือนเช่นที่ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน มีการเปิดโปงข่าวพลทหารถูกนายสิบทำร้ายร่างกายในค่ายทหาร โดยระบุว่าพลทหารเมาสุรากลับมาและแสดงอาการกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งรองโฆษกกองทัพบกได้ออกมาแถลงยอมรับว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและจะได้ทำการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งจะแจ้งผลให้กับสังคมได้รับทราบ แต่สุดท้ายจนปัจจุบันนี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่า นายสิบซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาถูกลงโทษทางวินัยหรือไม่อย่างไร หลังจากที่พลทหารที่โดนทำร้ายถูกสั่งขัง

หรือก่อนหน้านั้นในเดือนมีนาคม เกิดกรณีพลทหารคมทัช พันฤทธิ์ อดีตผู้ช่วย ส.สพรรคก้าวไกล ผูกคอตายในค่ายทหาร มทบ.27 ตามมาด้วยกรณีพลทหารประกิตกระโดดเรือนนอน เพื่อฆ่าตัวตายในค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี เรื่องก็เงียบหายไป โดยไม่มีการแถลงให้สังคมรับรู้ว่า พลทหารประกิต ซึ่งนอนรักษาตัวในห้อง ICU อาการเป็นตายเท่ากัน ถึงวันนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือหมดลมหายใจไปแล้ว

ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึงเรื่องพลทหารถูกตัดเงินเดือนเป็นค่าดูดส้วมที่ถูกเปิดโปงเมื่อเดือนมิถุนายน จนเป็นที่อับอายไปทั่วทั้งสารทิศว่ากองทัพมีนายทหารหิวเงินที่ไร้ยางอาย ถึงขนาดกล้าหากินกระทั่งอาจมของพลทหาร จนกองทัพต้องออกมาแก้ตัวแบบข้างๆ คูๆ ว่าเป็นเพียงข้อเสนอขึ้นมาให้พิจารณา ยังไม่ได้มีการอนุมัติให้ปฏิบัติจริงแต่อย่างใด และผู้บังคับหน่วยดังกล่าวถูกย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว

จากทุกเรื่องที่กล่าวมา สิ่งที่เจ็บปวดบาดหัวใจของทหารอาชีพที่เป็นทหารแท้ก็คือ

คำเย้ยหยันของผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอคติกับคนในเครื่องแบบ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าทัพไหนก็ตามที่สบประมาทว่า
กองทัพไทยจะปราบปรามข้าศึกที่ไหนได้ ถ้ายังไม่สามารถปราบปราม ทหารชั่วที่ทำร้าย พลทหาร ซึ่งเป็นกำลังพลของกองทัพได้สำเร็จ

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น