ผอ.กองช่างโต้กลับ เข้าแจ้งความคู่กรณีฐานแจ้งความเท็จ ปมถูกล่อซื้อรับเงินใต้โต๊ะ แลกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร

ผอ.กองช่างเข้าแจ้งความคู่กรณี ฐานแจ้งความเท็จ เรียกรับเงินใต้โต๊ะ 1 แสน บาท แลกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ยืนยันเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่วยจึงมาทำหน้าที่แทน

จากกรณี เมื่อวันที่ 4 ก.ค.67 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. แถลงผลจับกุม นาย ชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/67 ลงวันที่ 3 ก.ค. 2567 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ” พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 9 หมื่นบาท อาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 10 นัด ได้ที่อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จ.นนทบุรี

วันนี้ 24 ก.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.น.) นายชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อมทนายความ นำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เข้ายื่นต่อ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กรณีถูกตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุมพร้อมเงินสดของกลาง จำนวน 90,000 บาท คดีเรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ในจังหวัดนนทบุรี

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.นาย ชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อม น.ส. ภิญญานิษฐ์ (ทนายแดง) และนาย พงษ์สิริ ผลภิญโญ ซึ่งเป็นทนายความ เดินทางไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อแจ้งความกับคู่กรณีในฐานแจ้งความเท็จ โดยนาย พงษ์สิริ ผลภิญโญ ทนายความ กล่าวว่าในวันนี้ได้พาทาง ผอ.กองช่างเขามาแจ้งความกับทางคู่กรณีในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 172 หลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ที่จะเรียกทางผอ.กองช่างมาให้ปากคำเพิ่มเติมและแสดงพยานหลักฐานต่อไป ส่วนตัวไม่มีความกังวลใจเพราะพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมามองว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนไปและจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากทางคู่กรณีได้ไปร้องกับทาง ป.ป.ช.และเป็นคดีอาญาแผ่นดินไปเรียบร้อยแล้ว การเจรจาไกล่เกลี่ยจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะเรียกฝั่งคู่กรณีเข้ามาให้ปากคำ

ทางด้าน นาย ชยุต หนองหาร ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดหรืออาจจะเป็นการสื่อสารไม่ตรงกัน เพราะตนไม่มีอำนาจในการออกใบอนุญาต จะต้องเป็นผู้ดูแลหรือนายกเทศบาลเท่านั้น ส่วนเรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า ตนได้รับการติดต่อจาก น.ส.จตุพร ยาดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยวิศวะสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง ได้ประสาน นาย อรรคเดช ไพรรุณ ซึ่งเป็นวิศวะกร และ น.ส.ภัทราวดี ศิริวรรณ (สถาปนิก)เพื่อให้ช่วยตรวจสอบแบบอาคารที่ทางคู่กรณียื่นเข้ามา โดยในวันเกิดเหตุทั้งคู่ไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ น.ส.ภัทราวดี ได้ทักมาหาตนเพื่อติดตามเงินจำนวน 30,000 บาท ที่เป็นค่าดำเนินการที่คุยกันไง้ในตอนแรก และของนาย อรรคเดช อีก 60,000 บาท รวมแล้ว 90,000 บาท ตนเพียงแค่รับเงินดังกล่าวแทน 2 คน ที่ไม่สามารถเดินทางมารับได้เนื่องจากทั้งคู่ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขอยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน ส่วนเรื่องคดีตนได้ให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการให้แล้ว