ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองใหม่ปฏิเสธรับเงินใต้โต๊ะ 1 แสน แลกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร อ้างเป็นค่าจ้างวิศวกรและสถาปนิก จ่อแจ้งกลับผู้ร้องทำให้เสียหาย ด้าน ผบก.ปปป.เผยยันมีหลักฐานมัดแน่น ผิดหรือถูกว่ากันในชั้นศาล
วันนี้ ( 24 ก.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อมทนายความ นำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เข้ายื่นต่อพล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กรณีถูกตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุมพร้อมเงินสดของกลาง จำนวน 90,000 บาทคดีเรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ในจังหวัดนนทบุรี
นายชยุต กล่าวว่า เงินจำนวน 90,000 บาทที่ผู้ร้องทุกข์นำมาส่งมอบให้กับตนเองในวันดังกล่าว ไม่ใช่เงินสินบนเพื่อให้มีการอนุญาตก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด แต่เป็นเงินค่าจ้างสถาปนิกและวิศวกรภายนอก เพื่อให้เข้ามาช่วยคุมงานก่อสร้างอย่างจริงจัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ร้องทุกข์ได้นำแบบแปลนก่อสร้างที่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์มาขอคำปรึกษาหลายครั้ง และได้มีการแก้แบบไปถึง 2 ครั้ง เกี่ยวกับข้อมูลหมุดที่ดิน และส่วนต่อขยายบันไดหนีไฟภายนอกอาคาร ประกอบกับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารใหญ่ สูง 4 ชั้น เมื่อผู้ร้องทุกข์มาขอคำปรึกษา จึงให้คำแนะนำว่าควรมีวิศวกรและสถาปนิกจากภายนอก เป็นผู้ออกแบบควบคุม เพราะหากการก่อสร้างมีปัญหาจะเกิดความเสียหายมูลค่าสูงนับล้านบาท
นายชยุต กล่าวต่อว่าตนเองได้ประเมินค่าจ้างวิศวกรและสถานิกไว้ 150,000 บาท แต่ผู้ร้องทุกข์ขอต่อเหลือ 100,000 บาท โดยวางมัดจำไว้แล้ว 10,000 บาท ได้มอบให้กับสถาปนิกไปแล้ว และนัดมอบเงินส่วนที่เหลือในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเงิน 90,000 บาท แบ่งเป็นของวิศวกร 60,000 บาท และสถาปนิกอีก 30,000 บาท แต่เนื่องจากสถาปนิกป่วยกระทันหัน ตนเองจึงเป็นผู้รับเงินแทน อีกทั้งในวันดังกล่าวผู้ร้องทุกข์จะต้องนำแบบแปลนส่วนขยายบันไดหนีไฟมาส่งมอบ เพื่อออกใบอนุญาตซึ่งนายกเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองได้อนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม เหลือเพียงนำใบอนุญาตไปออกเลขให้มีผลบังคับใช้ แต่ปรากฎว่าในวันดังกล่าว ผู้ร้องทุกข์กลับพาตำรวจมาจับกุมตนเอง และระหว่างที่ถูกดำเนินคดี และถูกต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนนำใบอนุญาตดังกล่าวไปขอออกเลข ทั้งที่ผู้ร้องทุกข์ยังไม่ได้มีการส่งแบบบันไดหนีไฟมาให้ ทำให้ขณะนี้ใบอนุญาตดังกล่าวสามารถนำไปใช้ก่อสร้างได้แล้วตามกฎหมาย
"เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจผิด ว่าเงินที่ส่งมอบเกี่ยวข้องกับการได้ใบอนุญาต จริงๆ แล้วเป็นเพียงค่าปรึกษาจ้างวิศวกรและสถาปนิกคุมงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยถูกต้องตามกฎกระทรวง และผมเป็นผู้อำนวยการกองช่าง ก็ไม่ได้มีอำนาจออกใบอนุญาต และไม่เอาตำแหน่งมาแลกกับเงิน 100,000 นี้แน่นอน เงินทุกบาทไม่เคยนำมาเข้าตัว และเงินเดือนข้าราชการก็เพียงพออยู่แล้ว"นายชยุต กล่าว
นายชยุต กล่าวอีกว่า หลังจากนำเอกสารชี้แจงและหลักฐานส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. แล้ว ตนเองพร้อมทนายความจะไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ร้องทุกข์รายนี้ ในข้อหาแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญาต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.กล่าวว่า กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าเงินจำนวน 90,000 บาท ที่เจ้าหน้าที่มีการล่อซื้อ เป็นค่าจ้างจากบุคคลภายนอก โดยตัวเองเป็นผู้รับแทนนั้น เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาที่จะใช้เป็นข้อต่อสู้ทางคดีได้ แต่ตำรวจยืนยันว่ากรณีขอศาลออกหมายจับ ไปจนถึงการวางแผนล่อซื้อทำไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ว่ามีการเรียกรับเงินจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ร่วมกับตำรวจ ปปป. แฝงตัวเข้าไปสืบสวนในคดีนี้ตั้งแต่ต้น ส่วนข้ออ้างการรับเงินเเทน ตามหลักแล้วเจ้าหน้าที่โยธาที่เป็นข้าราชการของรัฐ ไม่สามารถที่จะเรียกรับเงินค่าจ้าง หรือมีส่วนได้เสียจากบริษัท และ บุคคลภายนอกได้ ซึ่งในส่วนนี้ทางผู้ถูกกล่าวหาต้องยืนยันให้ได้ว่าเงินทั้งหมดที่ได้รับไป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์ตามที่ถูกกล่าวหาจริง ซึ่งส่วนนี้ศาลจะเป็นผู้พิจารณา แต่ในส่วนการฟ้องกับผู้ที่ผู้ที่แจ้งความ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาที่จะสามารถกระทำได้