หนุ่มใหญ่ขับรถก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้มตั้งแต่ปากซอยศรีบูรพา 11-20 ระยะทางราว 700 เมตร รวม 17 ต้น โดยพาดขวางถนนหมด 3 เลน และสายไฟขาดพาดไปในเลนที่ 4 ด้วย มีรถยนต์เสียหายอีก 4 คัน เจ้าตัวมีแผลฉีกขาดที่เข่า เย็บ 6 เข็ม ส่วนผู้ที่สัญจรไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 8 คน ชาวบ้านโวยไฟดับทำเดือดร้อนอย่างหนัก
วันที่ 5 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เขียวสลับ สว.(สอบสวน)สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุรถตู้เสียหลักชนสาไฟฟ้าล้มจำนวนหลายต้น มีรถเสียหายหลายคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณปากซอยศรีบูรพา11ใกล้แยกการเคหะ ไปจนเกือบถึงแยกนิด้า ถนนศรีบูรพา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมระดมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามีนบุรีไปร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน แบบไป 2 เลน กลับ 2 เลน จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยศรีบูรพา16 พบรถตู้โตโยต้า ไฮเอ็ท สีขาว ทะเบียน ฮว-5996 กรุงเทพมหานครชนกับเสาไฟฟ้าปูนขนาดความสูงประมาณ 8 เมตร ซึ่งมีหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่ด้านบน หักลงมาทับรถจนด้านหน้าพังยับส่วนผู้ขับขี่ทราบชื่อนายอรรถพล ทองอ่อน อายุ 49 ปี ชาวสุพรรณบุรี ติดภายใน ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีต้องช่วยกันนำร่างออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว แพทย์ตรวจสอบแล้วพบมีแผลฉีกขาดที่เข่าด้านซ้าย จึงทำการเย็บ 6 เข็ม และแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนผู้ที่สัญจรบนถนนศรีบูรพาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 8 คน หน่วยกู้ภัยทำการปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ
จากการสำรวจความเสียหายพบว่ามีเสาไฟฟ้าล้มตั้งแต่ปากซอยศรีบูรพา11ใกล้แยกการเคหะไปจนถึงซอยศรีบูรพา 20 ใกล้แยกนิด้า ระยะทางราว 700 เมตร รวม17ต้น
โดยพาดขวางหมด3เลน และสายไฟขาดพาดไปในเลนที่4ด้วย มีรถยนต์เสียหายอีก 4 คัน ประกอบด้วยรถมาสด้าซีเอ็กซ์ 30 สีบรอนด์เงิน ทะเบียน2 ขฎ 4195 กรุงเทพมหานคร ถูกเสาไฟฟ้าทับด้านหน้ารถพังยับ รถโตโยต้า ฟอร์รูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กฎ 7487 กรุงเทพมหานคร ถูกสายไฟพาดลงมาฟาดจนหลังคาบุบ รถนิสสันอัลมีร่า สีขาว ทะเบียน2 กน 2336 กรุงเทพมหานคร กระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวาหัก ซุ้มล้อด้านซ้ายยุบ และรถโตโยต้าคัมรี่ สีขาว ทะเบียน ฌภ-998 กรุงเทพมหานคร ถูกเสาไฟทับระโปรงหน้าพังยับ
เจ้าหน้าที่องทำการปิดถนนตั้งแต่แยกการเคหะไปจนถึงแยกนิด้า แล้วทำการตัดไฟ ก่อนจะรีบดำเนินการรื้อสายไฟจากปลายเสา เพื่อที่จะรีบย้ายเสาไม่ให้กีดขวางถนนเป็นการด่วน ต่อมาเปิดให้ใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปากซอยศรีบูรพา 20 ไปจนถึงคลองลำพังพวย ส่วนบ้านที่อยู่ตั้งแต่คลองพังพวยอีกฝั่งไปจนถึงแยกการเคหะไฟฟ้ายังใช้การไม่ได้ มีชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือน
จากการสอบสวนน.ส.ณัฐวรัตถ์ พูลสวัสดิ์ อายุ 55 ปี กรรมการ และทนายความบริษัท สำนักกฎหมาย บ้านพูลสวัสดิ์จำกัด ซึ่งรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ให้การว่า ก่อนเกิดหตุขับรถออกมาจากศาลอาญา รัชดาฯกำลังจะกลับบ้านพักในซอยรามคำแหง 68 โดยขับรถห่างจากรถตู้คันเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร เห็นรถตู้ที่ขับมาอยู่ดีๆ เสียหลักพุ่งเข้าไปชนเสาไฟฟ้าข้างทาง โดยไม่มีคู่กรณี ทำให้เสาไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลังเสาต้นที่ชนหักลงมา ตนเบรกรถได้ทัน ไม่เช่นนั้นรถอาจเสียหายมากกว่านี้
ต่อมา น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ สก.เขตบางกะปิ พร้อมทีมงานเดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเขตมีนบุรีได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย และได้ประสานระดมกำลังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงในพื้นที่ฝั่งตะวันตกทั้งหมด ช่วยกันนำรถบรรทุกและเครื่องจักรขนาดใหญ่ เข้ามาทำการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มออกพ้นพื้นที่เพื่อเร่งเปิดการจราจร แต่ส่วนของไฟฟ้าที่จะจ่ายกลับคืนให้บ้านเรือนประชาชนนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตอนนี้ตนกำลังเร่งหารือกับทางสำนักงานเขตบึงกุ่ม และสำนักงานเขตบางกะปิ เพื่อจัดหาที่พักอยู่อาศัยละที่จอดรถชั่วคราวให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ระหว่างรอการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า
ส่วนชาวบ้านที่ถูกตัดกระแสไฟ พร้อมใจกันกล่าวว่าได้รับความเดือดร้อน เพราะตู้เย็นที่แช่ของสด ไม่สามารถใช้งานได้ บ้านที่ขายอาหารต้องหยุดร้าน เพื่อหาซื้อน้ำแข็งมาแช่ของ ห้องน้ำใช้การไม่ได้ เพราะต้องใช้ปั๊มสูบน้ำ รถยนต์ก็ไม่สามารถเข้ามาจอดที่บ้านได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเครื่องปั่นไฟมาช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้นก่อน เพราะทุกคนไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่น
ด้านพ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายอรรพล ให้การอ้างว่า ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วโทรศัพท์ตกลงพื้นในรถ จึงก้มไปหยิบ เมื่อเงยหน้ามาอีกทีรถก็พุ่งชนเสาไฟฟ้าแล้ว โดยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุรามาแต่อย่างใด จากการใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ จึงได้ให้แพทย์เจาะเลือดเพื่อหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดในเลือด เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
