ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมสาววัย 31 ปี ลักลอบขายซิมผ่านการลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว ยึดของกลาง 200 ซิม
วันนี้ (14 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ดำเนินการจับกุมตัวนางสาวภัทรานิษฐ์ อายุ 31 ปี ภูมิลำเนา ตำบลหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566
พร้อมของกลาง จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO x100 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้บริเวณถนนสาธารณะปากซอยลาดพร้าว 107 แยก 13 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจากสายลับทำการติดต่อล่อซื้อ พูดคุยกันผ่านข้อความแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ชื่อผู้ใช้ “Putr Putr” โดยผู้ลักลอบจำหน่าย ได้นัดหมายกันในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.00 น. โดยได้ตกลงซื้อขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม ในราคา 20,000 บาท โดยจะจ่ายเป็นเงินสดที่จุดนัดพบ โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้นัดหมายเบื้องต้นที่ซอยลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และเมื่อถึงเวลาจะแจ้งอีกครั้งว่าเป็นสถานที่ใด
ต่อมาเวลาประมาณ 00.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จึงได้เดินทางไปยังบริเวณที่นัดหมาย โดยให้สายลับโทรศัพท์ติดต่อยืนยัน ผู้ลักลอบจำหน่ายได้แจ้งว่าให้ตรงเข้าไปภายในซอยลาดพร้าว 107 จนถึงบริเวณหน้าร้ายไอศกรีม ซึ่งคือบริเวณจุดนัดพบ เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเฝ้าจุดสังเกตการณ์ และให้สายลับติดต่อหาผู้ลักลอบจำหน่าย ผู้ลักลอบจำหน่ายได้แจ้งว่าตนถึงจุดนัดหมายแล้ว จึงพบ นางสาวภัทรานิษฐ์ กำลังถือโทรศัพท์พูดคุยและถือถุงพลาสติกหูหิ้วมีสิ่งของอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในถุงพลาสติก ปรากฏพบเป็น ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส จำนวน 200 ซิม
โดย นางสาวภัทรานิษฐ์ ยอมรับว่าซิมทั้งหมดดังกล่าวเป็นซิมที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานและเป็นของตนเองจริง กำลังจะนำมาให้กับผู้ติดต่อซื้อ อีกทั้งได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ที่คิดจะทำอาชีพขายบัญชีม้าหรือซิมม้านั้น ได้ไม่คุ้มเสียกับโทษทางอาญา ขอให้คิดให้ดี ซึ่งตามกำหมายนั้น ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก (คนเปิดบัญชีม้า) บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์(คนเปิดซิมม้า)สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ