อ่างทอง - หวิดสลดตาวัย 71 ปีกลับจากไปรับหลานข้ามเลนเฉี่ยวกระบะสวนทางพุ่งชนเสาไฟฟ้า ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในจำนวน 2 ราย ถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง หมู่ที่ 3 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
เวลา 16.15 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.ต.ท.ราชันย์ เพ็ชร์รุจิ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งข้ามเลนไปเฉี่ยวชนรถยนต์กระบะ ก่อนเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน จำนวน 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง หมู่ที่ 3 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดู และช่วยเหลือกันเป็นจำนวนมาก บริเวณเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทางพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บต 7691 อ่างทอง สภาพด้านหน้าชนติดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงพังยับเยิน ภายในพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ จำนวน 2 ราย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าทำการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง ทราบชื่อต่อมา ด.ญ.ชนิภา จันระวังยศ อายุ 12 ปี ผู้โดยสาร
สภาพถูกอัดกับถุงลมรถอยู่ในอาการช็อกไม่ยอมพูด และนายเสรี ไพเราะ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 1 ตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง บาดเจ็บเล็กน้อยแต่จำเหตุการณ์ไม่ได้ เพียงแต่บอกว่าตนขับมาเท่านั้น ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ฒก 6699 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ข้างทาง สภาพรถด้านขวามีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย เพลาหลังหลุดยางแตก มีนายประสิทธิ์ หลำเจริญ อายุ 68 ปี เป็นผู้ขับ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ ให้การว่าตนขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าจะไปรับหลานที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะคู่กรณี อยู่ๆ ก็ขับข้ามเลนมาทางรถยนต์กระบะของตน ตนจึงหักหลบแต่ไม่พ้น จนถูกเฉี่ยวชนด้านข้างจนรถตกถนนขับไม่ได้ ส่วนทางด้านนายธนากร เสียมสกุล อายุ 28 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะตนขับรถมาทางเดียวกับผู้เสียหายมุ่งหน้าเข้าเมือง ระหว่างทางเห็นรถกระบะข้ามเลนเข้ามาจึงหักหลบได้ทัน รถคันดังกล่าวจึงได้ไปเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีที่ขับมาคู่กันแทน ตนเองรู้สึกใจหายและระทึกใจที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งคู่กรณี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บต้องรอสอบปากคำหลังจากมีอาการดีขึ้น และผลของแพทย์ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
