รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ ยากูซ่าหั่นศพ โอปป้าฆ่าโบกปูน ราคาที่ไทยต้องจ่าย
ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วสำหรับประเทศไทย ภายหลังไทยแลนด์แดนรอยยิ้มมีต่างชาติเข้ามาก่ออาชญากรรมสยองขวัญถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน
เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน เกิดเหตุแก๊งค์ยากูซ่าชาวญี่ปุ่นฆ่าหั่นศพในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งกันเอง มาจนถึงกรณีล่าสุดที่มีชาวเกาหลีฆ่าโบกปูนเพื่อนร่วมชาติแล้วนำศพมาทิ้งที่จังหวัดชลบุรี โดยมีปัจจัยเรื่องการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายเป็นมูลเหตุจูงใจในการลงมือ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังมีปัญหาภายในอยู่ในเวลานี้ จะสามารถเร่งจับตัวคนร้ายและคลี่คลายคดีนี้อย่างไร
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าประเทศไทยนับเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางและเอื้อต่อการเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติพอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศไทยมีนโยบายต่างประเทศ เพื่อต้องการดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาในประเทศ ภายใต้ความหวังที่ว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาหมุนเวียนให้กับเศรษฐกิจของประเทศ จึงกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้อาชญากรแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่ประเทศไทยต้องจ่าย เพื่อแลกกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อมองภาพรวมถึงโครงสร้างของประเทศไทยในการจัดการเรื่องดังกล่าวแล้ว ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลชุดปัจจุบันระดับหนึ่งก่อน เนื่องจากเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่ถึง 1 ปี ขณะที่ ปัญหานี้ได้รับการสะสมมาเป็นเวลานาน
โดยเมื่อปี 2566 มีการเผยแพร่รายงานขององค์กรระหว่างประเทศ เรื่อง Global Organized Crime Index หรือ คะแนนดัชนีอาชญากรรม ปรากฏว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 7 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อพิจารณาจากลำดับโลกแล้ว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 56 จากทั้งหมด 193 ประเทศทั่วโลก
ประเทศไทยได้รับคะแนนชี้วัดเพียง 5.77 คะแนนเท่านั้น โดยในรายงานมีการวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาของประเทศไทยว่าเนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นทางผ่านและปลายทางสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานโดยวิธีที่ไม่ปกติ อีกทั้งยังเป็นแหล่งซื้อขายอาวุธผิดกฎหมายด้วย
ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่รัฐในระบบราชการและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยทุกระดับมีความไม่โปร่งใส
ไม่เพียงเท่านี้ สภาพทางกายภาพของประเทศไทยก็เอื้อต่อการปฏิบัติการของผู้ร้ายชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน กล่าวคือ ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับหลายประเทศ ทั้งเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา หรือแม้พรมแดนทางทะเลที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลที่ทำให้สามารถรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ไปได้ด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติเป็นเส้นทางหลบหนี
ที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานตรวจสอบของประเทศไทยมักจะมีข้ออ้างถึงความบกพร่องในเรื่องนี้ด้วยการบอกว่าขาดแคลนเจ้าหน้าที่และงบประมาณ แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้วปัญหาสำคัญอยู่ที่การขาดแผนที่ชัดเจนและการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องมีแผนการดำเนินการที่ทับซ้อนกัน จนไม่อาจนำไปใช้ร่วมกันในทางปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อการทำงานเกิดความหละหลวม ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเปิดประเทศเพื่อดูดเงินจากต่างชาติ จึงไม่แปลกการก่ออาชญากรรมของต่างด้าวได้เกิดขึ้นเป็นรายวันในทุกระดับตั้งแต่คดีทำร้ายร่างกายไปจนถึงคดีฆาตกรรมสยองขวัญ
ดังนั้น หากนโยบายการเปิดประเทศยังขาดความสมดุลอยู่เช่นนี้ ประเทศไทยอาจต้องมีราคาที่จ่ายมากกว่านี้ก็เป็นได้
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
