รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ โจ้ ถุงดำ นักโทษพันล้าน ฝันสลายขออภัยโทษ
จะเพราะสำนึกผิดแล้วหรือไม่ ก็ยังยากจะตัดสิน
แต่ที่แน่ๆ การที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ตัดสินใจถอนการอุทธรณ์คดีถุงดำฆ่าคน เพื่อให้คดีสิ้นสุดกันเพียงแค่นี้ แสดงว่า เขาตัดสินชะตาชีวิตเขาด้วยแผนการที่เตรียมจะเดินหมากต่อไป
โทษจำคุกตลอดชีวิต ที่ศาลชั้นต้นตัดสินไว้นั้น ฟังดูยาวนานก็จริง แต่ในความเป็นจริง ใครก็รู้ว่าระบบจัดการนักโทษของกรมราชทัณฑ์ จะส่งผลทางบวกกับนักโทษ
การติดคุกของจริง เวลามันจะน้อยกว่าคำพิพากษามาก ผู้กำกับโจ้เลือกใช้สมอง มากกว่าใช้อารมณ์ เพราะบวกลบคูณหารแล้ว การยอมจบ ไม่ขอยื่นอุทธรณ์ฎีกา เพราะเขาไม่สามารถชนะคดี และถ้ายอมรับการตัดสินของศาลอาญา โทษของเขาก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจาก “จำคุกตลอดชีวิต” ไม่ต้องเสี่ยงจะถูกเพิ่มโทษ
แล้วกระบวนการคัดเลือกนักโทษชั้นดี ตามระเบียบของราชทัณฑ์ ก็จะช่วยส่งให้ตัวเขา ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษตามวาระสำคัญ
จำคุกตลอดชีวิตในหน้ากระดาษ ติดคุกจริงอาจแค่ 10 กว่าปีนิดหน่อย ผู้กำกับโจ้ ซึ่งเวลานี้ยังหนุ่มแน่น อายุแค่ 42 ปี หากได้รับการอภัยโทษตามระบบ เขาก็จะได้รับอิสรภาพ ตอนอายุแค่ 50 กว่า ไม่ได้แก่หง่อมหมดสภาพไปแล้ว
อายุเท่านี้ ยังมีเวลาเสพสุขกับเงินสกปรกที่สะสมไว้มหาศาล
เทียบเคียงกับฆาตกรในอดีต ผู้ก่อคดีฆ่าหั่นศพสะเทือนขวัญอย่าง “เสริม สาครราษฎร์” เขาถูกศาลพิพากษประหาร แล้วลดให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต แบบเดียวกับผู้กำกับโจ้
จากปี 2541 เขาใช้เวลา 14 ปี ก้าวพ้นเรือนจำมาในปี 2555 แถมพ่วงปริญญา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช และพยายามดันตัวเอง หวังจะเป็นเนติบัณฑิตอีกต่างหาก
จัดการเปลี่ยนชื่อให้โลกลืม “เสริมหั่นศพ” คนเดิม เป็นคนใหม่เพื่อมูฟออนจากอดีตขมขื่น
จากตัวอย่างของ “เสริม สาครราษฎร์” การเลือกจบคดีของผู้กำกับโจ้ จึงนับว่าฉลาดกว่าการดื้อสู้คดีต่อไปอีก 2 ศาล เพราะกว่าคดีจะจบในชั้นศาลฎีกา ต้องเสียเวลาไปอีกกี่ปีก็ไม่ทราบแน่ชัด
มิหนำซ้ำ ดุลยพินิจของศาล ไม่ใช่ของที่ใครจะล้อเล่น ศาลสูงอาจเปลี่ยนโทษเป็นประหารชีวิตสถานเดียวขึ้นมา ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ทั้งนี้ การฆ่าคนแบบมีคลิปหลักฐานอย่างคดีนี้ โอกาสที่จำเลยจะได้รับการยกฟ้อง มันดูช่างริบหรี่
ชีวิตนักโทษของผู้กำกับโจ้ คงไม่ลำบากสาหัสกระไรนัก ประสาคนมีเงินร่วม 1,500 ล้าน เขาสามารถซื้อความสะดวกสบาย เท่าที่เงินจะซื้อได้ในคุก
ก็อย่างที่รุ่นพี่ ผู้มีประสบการณ์ตรงอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคยกล่าวไว้ ค่าครองชีพในคุก หากอยากอยู่สบายๆ ก็ต้องใช้เงินพอๆ กับอยู่กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
คนที่ประกาศออกสื่อเลยว่า ผู้กำกับโจ้สำนึกผิดแล้ว ก็คือคุณแม่ของเขาเอง พร้อมประกาศจะเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายจนพอใจด้วย
เรียกว่าเดินหน้าสะสมความดี เพื่อจะใช้เป็นเหตุลดโทษอย่างเร่งด่วน ให้ทันวาระสำคัญ 12 สิงหาฯ ของปีนี้เลย
อย่างไรก็ตาม คนปล่อยคลิปมัดผู้กำกับโจ้ ขณะลงมือคลุมถุงดำ คือ ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ออกมาโพสต์ถึงกรณีนี้ว่า เขาไม่เชื่อเลยว่า ผู้กำกับโจ้สำนึกผิดจริง
เพราะเมื่อเดือนก่อนนี้เอง ผู้กำกับโจ้ยังขู่อาฆาตเขามาจากในคุก
ทนายตั้มชี้ว่า กรณีแบบนี้ ถ้าเป็นนักโทษทั่วไป จะใช้เวลาประมาณ 15 ปี ถึงจะพ้นคุกออกมา
แต่ระดับผู้กำกับโจ้ คาดว่าแค่ 5-7 ปี ก็ออกมาลั้ลลาได้แล้ว
แต่แผนการหมากแรกของโจ้ ถุงดำ ที่หวังจะได้รับอภัยโทษในเดือนนี้ คงไปไม่ได้ เพราะตามหลักเกณฑ์ใหม่ นักโทษเด็ดขาดจะต้องติดคุกมาแล้ว1 ใน 3 หรือ8 ปีของโทษตามคำพิพากษาถึงจะเข้าเกณฑ์ได้อภัยโทษ เจอข้อนี้ ก็ดับฝันโจ้จอมโหดแล้ว
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1