รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ แพงทั้งแผ่นดิน 'เพื่อไทย' เอาใจนาย ลอยแพประชาชน
ผ่านเทศกาลสงกรานต์ช่วงเวลาแห่งความสุขไม่ทันไร ต้องเดินหน้าเข้าสู่ความเป็นจริงของชีวิตกันทันที ภายหลังปรากฏว่าราคาสินค้าและค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
ไล่เรียงมาตั้งแต่ ราคาเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารขั้นพื้นฐานของคนไทย ได้ขึ้นราคาหน้าฟาร์มอีกกิโลกรัมละ 4 บาท เป็นการปรับเพิ่มขึ้น ครั้งที่ 3 ในปีนี้ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 4 บาท เท่ากับว่าปรับขึ้นไปแล้ว 12 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาหน้าฟาร์มที่ขยับขึ้นนั้นทำให้ราคาหมูในแต่ละภูมิภาคสูงขึ้นตามไปด้วย และด้วยสภาพอากาศร้อนจัดและภัยแล้ง อาจทำให้ผลผลิตลดลง ส่งผลให้หมูปรับขึ้นได้อีก
ไม่เพียงแค่หมูเท่านั้น เพราะราคาไข่ไก่ก็ขยับสูงอีก 20 สตางค์ จาก 3.40 เป็น 3.60 บาท หรือปรับขึ้นแผงละ 6 บาท ซึ่งกรณีของราคาไข่ไก่นั้นถือว่าสร้างผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวมค่อนข้างสูง เพราะเป็นโปรตีนราคาถูกที่ประชาชนเข้าถึงได้ แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เห็นทิศทางการแก้ไขปัญหานี้จากระทรวงพาณิชย์เท่าใดนัก ภายหลังกรมการค้าภายใน อ้างเหตุผลเดิม คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากสภาพอากาศร้อนจัด
ราคาผักก็เพิ่มขึ้นสูงไม่ต่างกัน โดยเฉพาะผักที่ต้องใช้สำหรับการประกอบธุรกิจร้านอาหารอย่างผักชี โดยขยับขึ้น 70-80 บาทต่อกิโลกรัม จาก 130-140 บาทกิโลกรัม มาเป็น 200-220 บาทต่อกิโลกรัม
สุดท้ายมาเป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งพอพ้นกำหนดเวลาการตรึงราคา บรรดาผู้ค้าน้ำมันก็ขึ้นราคาทันที และมีทิศทางจะเพิ่มสูงอีก โดยมีปัจจัยมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
เรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะอีกด้านหนึ่งประชาชนต้องแบกรับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เรียกได้ว่าประชาชนกำลังเผชิญกับขุมนรกทางเศรษฐกิจแบบคูณสอง แต่รัฐบาลยังพายเรือในอ่างอยู่พอสมควร
ด้านหนึ่งรัฐบาลแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการเดียว คือ การหวังพึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แต่เอาเข้าจริงโครงการนี้ก็ยังอยู่ในสภาพที่มีความคืบหน้าแบบไม่มีความคืบหน้า เป็นเพราะหลายเรื่องๆ ยังไมได้ข้อสรุป เช่น ความคลุมเครือในการล้วงเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) หรือ คุณสมบัติของร้านค้าที่จะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น
ถ้าจะมีนโยบายลดค่าครองชีพนโยบายใดเป็นรูปเป็นร่างบ้าง เห็นจะเป็น 'รถไฟฟ้า 20บาทตลอดสาย' แต่นั่นเป็นเพียงเฉพาะบางสายเท่านั้น ยังไม่ได้ครอบคลุมทั้งระบบ จึงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น 20 บาทตลอดสายอย่างแท้จริง
การแก้ปัญหาค่าครองชีพกับการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ปัญหาทางการเมืองอาจแก้ด้วยการยืนกระต่ายขาเดียวและเสียงโหวตในสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบาลมีอยู่ในมือ แต่วิธีการนี้ไม่อาจใช้ได้กับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเรื่องค่าครองชีพ
ทุกวันนี้รัฐบาลโดยเฉพาะในฐานะที่ดูแลกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าใดนัก มีแค่เพียงการอ้างว่าเป็นสถานการณ์ของโลก และขอให้ประชาชนอดทนและรอเวลา
ขณะที่ ดูจะให้ความสำคัญกับการออกมาปกป้องนายใหญ่และนายหญิงของพรรคเพือไทยเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการรักษาเก้าอี้เสนาบดีของตัวเองเอาไว้
ท่ามกลางปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน อาจอาศัยความหน้าทนจนสามารถทู่ซี้อยู่ในอำนาจต่อไปได้จนครบ 4 ปี แต่สังคมการเมืองไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว คนไทยไม่ได้ลืมง่ายเหมือนในอดีต ถึงวันนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยต้องแพ้เลือกตั้งอีกรอบ ก็คงต้องโทษตัวเองเพียงอย่างเดียว
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android