หุ้นไทยปิดบวก +2.26 จุด นักวิเคราะห์ชี้หุ้นไทย แกว่งตัวออกข้าง นักลงทุนเทขายลดเสี่ยงช่วงหยุดยาวติดกัน 3 วัน ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวรับที่ 1,366 จุด และแนวต้าน 1,420-1,440 จุด แนะจับตาเม็ดเงินกองทุน TESG ที่จะทยอยเข้ามา หนุนตลาดฟื้นตัวได้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ธ.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.26 จุด หรือ +0.16% ดดยปิดตลาดที่ 1,380.99 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขาย 34,760.77 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,389.40 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,376.29 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 193 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 189 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 269 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,303.63 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +579.61 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +46.92 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +677.10 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,146.71 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,331.51 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,272.81 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,197.38 ล้านบาท ปิดที่ 6.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,156.71 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่81.00บาท เพิ่มขึ้น 5.00บาท หรือ6.58%
2.HANA ปิดที่46.75บาท เพิ่มขึ้น 2.25บาท หรือ 5.06%
3.PTTEP ปิดที่142.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 1.07%
4.JMT ปิดที่28.25 บาท เพิ่มขึ้น1.25บาท หรือ 4.63%
5.JMART ปิดที่19.00บาท เพิ่มขึ้น 1.20บาท หรือ 6.74%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 214.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.38%
2.SCC ปิดที่ 292.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.02%
3.MEGA ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 3.13%
4.CBG ปิดที่ 81.00 บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 1.52%
5.OSP ปิดที่ 21.50 บาท ลดลง 1.20บาท หรือ 5.29%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,890.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 จุด หรือ 0.29% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 852.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด หรือ 0.32% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 400.51 จุด ลดลง -1.55 จุด หรือ -0.39%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวออกด้านข้าง โดยเปิดตลาดช่วงต้นภาคเช้าปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนจะแผ่วลงช่วงท้าย เนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเราจะหยุดยาวติดกัน 3 วัน ทำให้นักลงทุนเลือกขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน
อย่างไรก็ตาม สัญญาณตลาดในภาพรวมยังเป็นบวก ทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือ บอนด์ยีลด์ ปรับตัวลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ภาพรวมของตลาดทุนไทยยังเผชิญแรงกดดันจากความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนภาพต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่มอง SET ปัจจุบันอยู่ในโซนน่าลงทุน ทั้ง P/E และ PBV ที่ค่อนข้างถูกมากแล้ว คาดว่าน่าจะรอจังหวะความเชื่อมั่นฟื้นตัว และเม็ดเงินลงทุนของกองทุน TESG เข้ามาหนุนตลาดฯ
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดฯ ฟื้นตัวได้ รับอานิสงค์เม็ดเงินกองทุน TESG ที่จะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้งประเมินบอนด์ยีลด์สหรัฐระยะถัดไปมีโอกาสแกว่งลงต่อ แนะนำติดตามการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยใกล้สิ้นสุดขาขึ้นแล้ว มีโอกาสผ่อนคลายได้มากขึ้นหนุนภาพบวก SET โดยมองแนวรับที่ 1,366 จุด และแนวต้าน 1,420-1,440 จุด