ตำรวจ ดส.จับกุมล่ามชาวไทย ร่วมมือแก๊งหลอกลวงเหยื่อสาวไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนถูกบังคับขืนใจ 25 ครั้ง แลกกับอิสรภาพ
วันนี้ (16 ม.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ต.(หญิง) ชาดา เสสะเวช สว.กก.ดส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.ดส.บช.น. ทำการจับกุมนายอาทิตย์ เลเซอ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ 1405/2566 ลงวันที่ 28 ธ.ค. 66 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของผู้อื่น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยจับกุมได้ที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการสืบสวนนครบาล ได้ทำการจับกุม นายนภดล หรือ นายใหญ่ 29 ยอด 1 ในผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ และเป็นคนสนิทของ “อาเหลียง” หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ซึ่งนายนภดล มีหน้าที่จัดหาเหยื่อหญิงสาวชาวไทย ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และถูกบังคับขืนใจ 25 ครั้ง เพื่อแลกกับอิสรภาพ ได้กลับมายังประเทศไทย โดยมี นายอาทิตย์ ทำหน้าที่เป็นล่ามคอยประสานงาน
จากการสอบถาม นายอาทิตย์ ยอมรับว่า เป็นล่ามให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านจริง โดยจะได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดประมาณเดือนละ 35,000 บาท จะต้องทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เริ่มงานตั้งแต่ 08.00 น. จนถึง 17.00 น. ได้หยุดวันอาทิตย์ กระบวนการของแก๊งนี้ คือ จะโทร.หลอกประชาชนคนไทย ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี 3 ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะโทร.มาแจ้งว่าคุณถูกดำเนินคดี เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ จะไปต่อขั้นตอนที่ 2 โดยให้คุยกับทางร้อยเวร และจะต้องให้เหยื่อ Add line เพื่อส่งรูปบัตรประชาชน ยืนยัน เมื่อเหยื่อส่งบัตรประชาชนกลับไป ทางแก๊งดังกล่าวจะรีบนำข้อมูลไปทำเอกสารปลอมขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าถูกดำเนินคดีจริง และขั้นตอนสุดท้าย ขั้นตอนที่ 3 เหยื่อจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นระดับสารวัตร เพื่อที่จะหลอกเหยื่อโอนเงินเพื่อเคลียร์คดีดังกล่าว จากการสอบถามเคยหลอกเหยื่อได้เงินมากสุด เป็นจำนวนเงินถึง 2 ล้านบาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะโทร.ผ่าน แอปพลิเคชัน ที่ไม่สามารถระบุเบอร์ที่โทร.มาได้
นายอาทิตย์ ยังยอมรับอีกว่า ได้เข้าสู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ผ่านเพจหางานในเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “หางานที่ปอยเปต” โดยนายอาทิตย์ ได้เข้าไปสมัครงาน เนื่องจากสามารถพูดภาษาไทยและจีนได้ หลังจากนั้น เจ้าของเพจ จะทำการส่งตั๋วเครื่องบินมาให้นายอาทิตย์ เพื่อเดินทางจากเชียงราย มาที่กรุงเทพฯ และจะมีรถมารับเพื่อพาหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ มาทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส.จึงได้ทำการจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง สภ. ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป