ข่าวลึกปมลับ : การเมืองไทย 2567 'เศรษฐา-พิธา-ก้าวไกล' อนาคตสั่นคลอนไม่แพ้กัน

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 ตอน การเมืองไทย 2567 'เศรษฐา-พิธา-ก้าวไกล' อนาคตสั่นคลอนไม่แพ้กัน



การเมืองปี 2566 ถือว่าภาพรวมเกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย โดยเฉพาะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดอำนาจของ 3 ป.ที่ครองประเทศไทยมาเกือบ 10 ปี แต่ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลที่ได้รับเลือกตั้งส.ส.มากที่สุดกว่า 150 ที่นั่ง กลับไม่ได้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

จากนั้นการเมืองก็มาเกิดเหตุการณ์พลิกขั้วขึ้นภายหลังพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคพันธมิตรตัดสินใจสะบัดมือจากพรรคก้าวไกล เพื่อมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับสามพรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย อันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ส.ว.พร้อมเทใจลงคะแนนให้นายเศรษฐา ทวีสิน ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่หากจะบอกว่าเกมพลิกขั้วการเมืองหักหลังพันธมิตรที่ว่าไปข้างต้นเป็นที่สุดของปี 2566 แล้ว ต้องบอกว่าการกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรอบเกือบสองทศวรรษ เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สางผลสะเทือนมากกว่า เพราะการกลับมาดังกล่าวทำให้โฉมหน้าการเมืองไทยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเริ่มเฉิดฉายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงขนาดที่นายกฯเศรษฐายังยอมก้มหัวให้อย่างเต็มใจให้

การเมืองไทยในปี 2566 ที่กำลังจะผ่านไปนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลสืบเนื่องต่อมาถึงทิศทางการเมืองไทยในปี 2567 ด้วย เพราะมีวาระพิเศษที่ต้องจับตาที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองอย่างที่หลายฝ่ายคาดไม่ถึง

เริ่มตั้งสถานการณ์ของพรรคก้าวไกลและนายพิธา ที่กำลังฝากอนาคตการเมืองไว้กับปลายปากกาลฤฤของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะในวันที่ 24 มกราคม 2567 นัดฟังคำวินิจฉัยกรณีอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลถือหุ้นไอทีวี

คดีนี้อย่างร้ายที่สุดถ้าผิดจริงก็แค่พ้นจากตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ถึงขั้นถูกตัดสิทธิทางการเมืองแต่ประการใด แต่คดีที่ต้องลุ้นเหนื่อยแบบตัวโก่ง คือ วันที่ 31 มกราคม จากคดีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีผลโทษถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง

คดีการแก้ไขมาตรา 112 ถือว่าเป็นเรื่องพรรคก้าวไกลเตรียมการรับมือและเตรียมใจมาบางส่วนแล้ว โดยหากต้องถูกยุบพรรคขึ้นมาจริงๆ ก็พร้อมจะมีแกนนำพรรครุ่น 3 นำโดยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ขึ้นมาทำหน้าที่ทันที นอกจากนี้ อาจทำให้การเมืองนอกสภาเกิดแรงกระเพื่อมมากขึ้นก็เป็นไปได้

หากบอกว่าอนาคตของพรรคก้าวไกลน่าจับตามองแล้ว อนาคตทางการเมืองของนายกเศรษฐาก็เป็นอะไรที่น่าติดตามเช่นกัน เพราะมีเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่เอื้อให้เกิดการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีได้ง่ายขึ้น โดยเดือนพฤษภาคม 2567 สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะดำรงตำแหน่งครบ 5 ปี และสิ้นสุดการมีสิทธิได้ยกมือโหวตนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะกลับมาสู่กระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

ตรงนี้ที่ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่านายหญิงพรรคเพื่อไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองหรือไม่ เนื่องจากส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเองอ้างไม่พอใจท่าทีของนายกฯเศรษฐาที่มีต่อผู้แทนราษฎรของพรรคเท่าใดนัก และต้องการให้คนในครอบครัวชินวัตรเข้ามานำพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มตัว เพื่อให้ง่ายต่อการทำคะแนนในพื้นที่

โดยการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจะเป็นไปได้ คงขึ้นอยู่กับอภิมหาโปรเจคส์ของเศรษฐาอย่างโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ถ้าทำได้โอกาสจะได้นั่งทำงานต่อไปก็มีความชอบธรรมอยู่ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เก้าอี้เศรษฐาคงสั่นคลอนอย่างเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น การเมืองไทย 2567 นอกจากอนาคตพรรคก้าวไกลจะเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองแล้ว ใครจะไปคิดว่าอนาคตในเก้าอี้นายกฯของนายเศรษฐา ก็ห้ามคลาดสายตาเช่นกัน

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android