xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยไม่ใช่สมบัติ ชินวัตร-ทักษิณ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน  -  แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

“ครอบครัวชินวัตร ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย”

“ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย” แต่เป็นของทุกคน


ความหมายของคำพูดที่ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องการสื่อออกมาในทางสาธารณะ ระหว่างการสัมนาพรรคเพื่อไทย วันที่สอง ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในการสัมนาดังกล่าว มีการบรรยายในหัวข้อ “ถอดบทเรียนเพื่อไทย ผ่านวิกฤตเลือกตั้ง” นำโดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค มี สส.ร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก รวมถึงมีรัฐมนตรีอยู่ร่วมประชุมด้วยหลายคน เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม

น.ส.แพทองธาร กล่าวปิดการสัมมนาช่วงหนึ่งว่า การมาร่วมสัมมนาครั้งนี้ ทำให้อบอุ่นขึ้น ใกล้ชิดขึ้น บางคนอยากให้จัดแบบนี้ทุกเดือนแต่คงยาก จึงอาจจะเป็นการจัดทุกปี พรรคเพื่อไทยมีดีเอ็นเอ มาจากพรรคไทยรักไทย ตนเองก็เป็นดีเอ็นเอมาจากผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ดีเอ็นเอที่พูดถึงไม่ได้หมายความถึงสายเลือดหรือตระกูล แต่หมายถึงจุดรวมของเราว่าเป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้องมากกว่าสร้างวาทะกรรมทางการเมือง

“ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีท่านเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และสร้างผลงานอย่างรวดเร็ว ถึงรัฐมนตรีก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนขออัญเชิญพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงตรัส ไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมากับคณะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยจากทั่วโลก ถึงคนรุ่นใหม่ว่า “ทุกคนในที่นี้และตัวพระองค์เองก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาแล้วทั้งนั้น” ประโยคนี้สั้นๆ แต่ลึกซึ้งมีความหมายมาก แปลว่า คนรุ่นเก๋าของพรรคก็เป็นคนรุ่นใหม่มาก่อน แต่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร มีความคิดที่จะรักษาพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร

ดังนั้นเราจึงต้องอัปเดตความรู้ซึ่งกันและกัน ติดตามเทคโนโลยีเพื่อให้วัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก๋าเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันเกิดประโยชน์ของประชาชน พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของตนจะทำงานให้มีประสิทธิภาพทำให้เสาหลักของทางเราคือรัฐบาล พรรค และสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชน และนำ Think Tank กลับมาใหม่ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ อยากให้เราได้ทบทวนถึงสิ่งเกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนต่อไป

“ครอบครัวของอิ๊งค์ ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เราทุกคนคือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของผู้นำที่เก่งไม่ว่าจะเป็นท่านทักษิณ (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ท่านนายกฯเศรษฐา (นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง) จะทำสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมที่สมบูรณ์ทีมที่เก่ง ทีมที่คอยบอกว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนี้ยังต้องเพิ่มเติม การนำของผู้นำที่ดีต้องมีผู้ตาม ที่เป็นห่วงที่แข็งแรงเหมือนพรรคเพื่อไทย ถึงจะทำให้การนำที่ดีสำเร็จได้" น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวได้ว่า อยากจะบอกว่า 20 ปีที่ผ่านมาความสำเร็จทุกอย่างเป็นความสำเร็จของทุกคน อยากจะบอกทุกคนว่า พรรคเพื่อไทยคือบ้านของเรา ทั้ง สส.เก่าและสส.ใหม่ นี่คือบ้านของเรา ต่อจากนี้เราจะมาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน ให้พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนไปด้วยกันมีอะไรขอให้ปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน มีวันที่ทุกข์แน่นอน แต่วันที่สุขก็ต้องมาอย่างแน่นอนเช่นกัน จึงขอให้กำลังใจทุกคน

แน่นอนว่าคำพูดที่ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีเจตนาจะสื่อออกไปมีความหมายหลักๆ อยู่สองสามอย่าง นั่นคือ “ครอบครัวชินวัตรไม่ได้เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย” หรือ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นเจ้าของเพื่อไทย” แต่ “เป็นของทุกคน” ซึ่งอาจจะหมายถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน หรือรวมไปถึงคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของก็ได้ เป็นเจตนาของหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพรรค เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าในสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง และมีคู่แข่งขันใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

อย่างไรก็ดีเมื่อวกกลับมาที่คำพูดที่ว่า “พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ของทักษิณ และไม่ใช่ของชินวัตร” มันจริงหรือไม่ เพราะหากพิจารณาทั้งความเห็นของคนทั่วไป และตามความเป็นจริงที่พอมองเห็นได้แล้ว ทุกอย่างน่าจะยังเหมือนเดิม หรืออาจจะกระชับแน่นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป หลังจากที่ได้เห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงตำแหน่งทางการเมืองที่มีการแต่งตั้งกันเข้ามา หรือแม้แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เวลานี้หลายคนเริ่มมองเห็นแล้วว่า กำลังอยู่ในภาวะที่ “ไม่มั่นคง” เพราะรู้ตัวดีว่า “ไม่ใช่ตัวจริง” ราวกับว่าตอนนี้ “มาไกลและกำไร” แล้ว

ขณะเดียวกัน ก็มีคำถามควบคู่เข้ามาเช่นเดียวกันไปถึง น.ส.แพทองธาร อีกว่า หากไม่ใช่ ลูกของนายทักษิณ ชินวัตร แล้ว ด้วยวัยขนาดนี้ ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง หรือมีการพิสูจน์ความสามารถทางธุรกิจองค์กรอื่น นอกเหนือจากบริษัทในครอบครัว คิดหรือว่าจะได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยการข้ามหัวคนอื่นในพรรคจนได้มาเป็นหัวหน้าพรรคในวันนี้ และกำลังจ่อว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของครอบครัว ได้อย่างไร และกำลังกดดันให้ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่กำลังเป็นนายกรัฐมนตรี มาแค่ไม่ถึงสามเดือนต้องตกอยู่ใน “ความเครียด” อยู่หรือเปล่า

หากพิจารณากันตามความเป็นจริงในเชิงประจักษ์อยู่ตรงหน้า หรือตั้งแต่ยุคตั้งพรรคไทยรักไทย เรื่อยมาจนกระทั่งมาถึงพรรคเพื่อไทย มันย่อมไม่มีความเชื่ออื่นได้เลยว่า พรรคการเมืองดังกล่าวไม่ได้เป็นของ “ครอบครัวชินวัตร” หรือ เป็นพรรคของ นายทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าบางครั้งอาจจะดู “ห่าง” ออกไปบ้าง ในช่วงที่เขาต้องหลบหนีคดีในต่างประเทศ แต่ก็นั่นแหละก็ยังชี้นำอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันในทางตรงกันข้ามเมื่อเวลานี้กลับเข้ามาแล้ว ทุกอย่างก็ต้องยิ่ง “กระชับแน่น” กว่าเดิม

ดังนั้นคำพูดที่ย้ำว่าไม่ใช่พรรคของชินวัตร หรือไม่ใช่ของทักษิณ ก็อาจเป็นแค่คำพูดที่ต้องการสื่อสารทางการเมือง ให้เห็นว่ามีการเปิดกว้างกับทุกคน แต่ในความเป็นจริงลองถามตัวเอง หรือลองสอบถามคนรอบข้างบ้างก็ได้ว่ามีใครเชื่อสักกี่คน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น