หัวหน้าเพื่อไทย ยกพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลปัจจุบัน รุ่นใหม่อยู่ร่วมรุ่นเก๋า ย้ำ “ชินวัตร” ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย ปลุกใจรักษาบ้านให้เข้มแข็ง อวย “เศรษฐา” 3 เดือนสร้างผลงานรวดเร็ว
วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอร์รี รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาเป็นวันที่สอง โดยมีการบรรยานในหัวข้อ “ถอดบทเรียนเพื่อไทย ผ่านวิกฤตเลือกตั้ง” นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค มี ส.ส.ร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก รวมถึงมีรัฐมนตรีอยู่ร่วมประชุมด้วยหลายราย ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม
โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวปิดการสัมมนาช่วงหนึ่งว่า การมาร่วมสัมมนาครั้งนี้ทำให้อบอุ่นขึ้น ใกล้ชิดขึ้น บางคนอยากให้จัดแบบนี้ทุกเดือนแต่คงอยาก จึงอาจจะเป็นการจัดทุกปี พรรคเพื่อไทยมีดีเอ็นเอมาจากพรรคไทยรักไทย ตนเองก็เป็นดีเอ็นเอมาจากผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ดีเอ็นเอที่พูดถึงไม่ได้หมายความถึงสายเลือดหรือตระกูล แต่หมายถึงจุดรวมของเราว่าเป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้องมากกว่าสร้างวาทะกรรมทางการเมือง
“ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี ท่านเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และสร้างผลงานอย่างรวดเร็ว ถึงรัฐมนตรีก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนขออัญเชิญพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ที่ทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา กับคณะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยจากทั่วโลกถึงคนรุ่นใหม่ ว่า “ทุกคนในที่นี้และตัวพระองค์เองก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาแล้วทั้งนั้น” ประโยคนี้สั้นๆ แต่ลึกซึ้งมีความหมายมาก แปลว่า คนรุ่นเก๋าของพรรคก็เป็นคนรุ่นใหม่มาก่อน แต่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร มีความคิดที่จะรักษาพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร
ดังนั้น เราจึงต้องอัพเดทความรู้ซึ่งกันและกัน ติดตามเทคโนโลยีเพื่อให้วัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก๋าเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันเกิดประโยชน์ของประชาชน พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของตนจะทำงานให้มีประสิทธิภาพทำให้เสาหลักของทางเราคือรัฐบาล พรรค และสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชน และนำ Think Tank กลับมาใหม่ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ อยากให้เราได้ทบทวนถึงสิ่งเกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนต่อไป
“ครอบครัวของอิ๊งค์ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เราทุกคนคือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของผู้นำที่เก่งไม่ว่าจะเป็นท่านทักษิณ (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ท่านนายกฯ เศรษฐา (นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง) จะทำสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมที่สมบูรณ์ทีมที่เก่ง ทีมที่คอยบอกว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนี้ยังต้องเพิ่มเติม การนำของผู้นำที่ดีต้องมีผู้ตามคยที่เป็นห่วงที่แข็งแรงเหมือนพรรคเพื่อไทย ถึงจะทำให้การนำที่ดีสำเร็จได้” น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวได้ว่า อยากจะบอกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จทุกอย่างเป็นความสำเร็จของทุกคน อยากจะบอกทุกคนว่าพรรคเพื่อไทยคือบ้านของเรา ทั้ง ส.ส.เก่า และ ส.ส.ใหม่ นี่คือ บ้านของเรา ต่อจากนี้เราจะมาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน ให้พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนไปด้วยกันมีอะไรขอให้ปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน มีวันที่ทุกข์แน่นอน แต่วันที่สุขก็ต้องมาอย่างแน่นอนเช่นกัน จึงขอให้กำลังใจทุกคน
จากนั้นเป็นการปิดการสัมมนาโดยมีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกันอย่างคึกคัก.