“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2566 ตอน ส่องเส้นทางวิบาก 'ยิ่งลักษณ์' ตามรอย 'ทักษิณ' อยากกลับก็ต้องรอก่อน
เพียงบทสัมภาษณ์เบาๆของอาจารย์วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ถึงช่องทางการกลับประเทศไทยของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าเขย่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศขึ้นมาได้ทันที
โดยตอนหนึ่งของการสัมภาษณ์นั้นอาจารย์วิษณุ บอกขั้นตอนตามลำดับว่า 1.ต้องเดินทางกลับเข้ามา และ 2.มอบตัวเพื่อเข้ารับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อครบขั้นตอนเหล่านี้ก็ครบองค์ประกอบเพื่อขอถวายฎีกาได้ ซึ่งทุกขั้นตอนเหล่านี้จะเริ่มนับหนึ่งได้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศแต่เพียงผู้เดียว
สำหรับคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ได้รับการพิจารณาและพิพากษาถึงที่สุดแล้ว คือ คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจากกรณีไม่ยับยั้งความเสียหายในโครงการจำนำข้าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเมื่อปี 2560 โดยศาลลงโทษจำคุกเป็นเวลา5 ปี
ส่วนอีกคดี คือ คดีใช้อำนาจโดยมิชอบสั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เดิมศาลมีอ่านและฟังคำพิพากษาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ศาลได้เลื่อนออกไปเนื่องจากมีผู้พิพากษาในองค์คณะเสียชีวิต 1 คน ทำให้ต้องมีการสรรหาผู้พิพากษามาทำหน้าที่เป็นองค์คณะแทนใหม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อโฟกัสไปที่คดีรับจำนำข้าวที่ถึงที่สุดแล้วพบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่เรื่องอายุความ โดยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 ว่าด้วยเรื่องอายุความการนำตัวผู้ต้องคำพิพากษาที่ถึงที่สุดมาลงโทษ กำหนดว่า กรณีต้องโทษจำคุก1ปีถึง7ปี จะมีอายุความที่ต้องเอาตัวมาลงโทษให้ได้ภายใน 10 ปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
แต่ปรากฏว่าในปี 2561 มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 โดยมาตรา 7 ของกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดว่าเมื่อมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําเลย ถ้าจําเลยหลบหนีไปในระหว่างต้องคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ จะมีผลให้การนับอายุความตามมาตรา 98 ต้องหยุดลงชั่วคราวก่อน
ตรงนี้จะเป็นประเด็นเรื่องการตีความทางกฎหมายว่าเรื่องการหยุดการนับอายุความนั้นมีผลย้อนหลังหรือไม่ ถ้าตีความว่าอายุความยังคงนับต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่มีคำพิพากษา อายุความจะเหลืออีกประมาณ 4 ปี แต่หากพิจารณาไปในทางตรงข้าม จะมีผลให้อายุความที่เหลืออยู่ของยิ่งลักษณ์มากกว่า 4 ปี หรือถ้าในอนาคต ศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีการโยกย้ายนายถวิลในแง่ที่ว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีความผิดให้ลงโทษจำคุก ก็อาจมีผลให้อายุความในคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกยืดออกไปเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งย่อมไม่เป็นคุณอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน เมื่อดูจากท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์เวลานี้ แม้อาจมีบางรายงานข่าวว่าเจ้าตัวอยากเดินตามรอยพี่ชาย แต่เอาเข้าจริงข้อเท็จจริงระหว่างพี่ชายกับน้อสาวแตกต่างกันพอสมควร
โดยกรณีของผู้เป็นพี่ชายนั้นถือเป็นนักโทษสูงวัยและมีอาการป่วย ประกอบกับได้รับโทษมาบางส่วนมาแล้ว ดังนั้น ถ้าพักเรื่องการป่วยทิพย์ไปก่อน อดีตนายกฯทักษิณก็มีลุ้นได้รับการพักโทษ ผิดกับกรณีของน้องสาวที่ยังไม่เป็นนักโทษสูงวัย ซึ่งเพียงองค์ประกอบแรกก็ทำให้โอกาสได้รับการพักโทษนั้นต้องลุ้นหนักเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น แม้ว่าวิษณุจะชี้แสงสว่างและขั้นตอนให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ แต่ภายใต้เงื่อนไขทางกฎหมายและคดีความที่ยังค้างอยู่ในระบบของศาลฎีกาอยู่ จึงมีความเป็นไปได้น้อยที่ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทยในเร็วๆนี้ หรือแม้แต่ตลอดอายุของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
เพราะนอกจากข้อกฎหมายที่ซับซ้อนแล้วเงื่อนไขทางการเมืองก็ชวนโกลาหลไม่แพ้กัน
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android