xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนคดีน้องชมพู่ ปั่นลุงพลเป็นคนดัง สะท้อนสังคมไร้สติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ บทเรียนคดีน้องชมพู่ ปั่นลุงพลเป็นคนดัง สะท้อนสังคมไร้สติ



กรณี “ลุงพล” ฝากบทเรียนสำคัญให้คนไทยต้องทบทวนกันใหม่ ต่อไปภายภาคหน้า ต้องไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำรอย

การ “ปั่นฆาตกรให้เป็นเซเลบ” หรือ “หลานตายกลายเป็นคนดัง” ถือเป็นภาพสะท้อน “สังคมไทยไร้สติ” ที่ชัดเจนมาก

การปั่นกระแสลุงพล เริ่มจากโลกโซเชียล ที่จู่ๆ ก็เฮโลติดแฮชแท็ก #saveลุงพล กันขึ้นมา เมื่อมโนกันไปว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ดูซื่อๆ น่าสงสาร

พอจุดพลุแบบนี้ขึ้นมา ก็เป็นสื่อหลัก พากันงับตามชุลมุน ช่วยกันปลุกปั้นลุงพล ก่อกระแสกันแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะเล็งเห็นว่า “ลุงพลขายได้” สร้างยอดวิวได้

โดยเฉพาะทีวีข่าวแห่งหนึ่ง ผู้ประกาศข่าวคนดัง แทบจะเป็นโฆษกรายวันของลุงพลเลยทีเดียว

ที่แสบสุดๆ ก็เป็นเหล่าดารานักร้องคนดัง เห็นแสงสาดจ้ารอบตัวลุงพล ก็ตามมาเกาะลุงพลกันเป็นพรวน เพื่อหวังผลด้านธุรกิจ มุ่งหวังผลประโยชน์ต่างตอบแทน

ยิ่งส่งให้ลุงพล ดังแล้วก็ดังอีก มีคิวเดินสายโชว์ตัว เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า รวยขี้แตกขี้แตน

คนดังที่ออกตัวแรงกว่าใครเพื่อน ก็เห็นจะเป็น “ราชินีหมอลำ” จินตหรา พูนลาภ ที่กำลังปล่อยซิงเกิ้ลสุดฮิตอย่างเพลง “เต่างอย” ออกมาพอดี

น้องจินหัวไว ทำเวอร์ชั่นพิเศษ จัดการดึงลุงพลมาร้องมาเต้น ฟีเจอริ่งกับเธอ ยอดวิวพุ่งทะลุ 20 ล้านวิว โกยเงินกันเพลิน

ไหนยังจะมี “หมอปลา” มือปราบสัมภเวสี มี “อุ๊บ - วิริยะ” นักปั้นดารา มี “ปิ๋ม ซีโฟร์” นักร้องลูกทุ่ง เป็นต้น ที่แห่ไปเชิดชูลุงพล

เหล่ายูทูบเบอร์ไร้สมองนับร้อยชีวิต ไม่ต้องไปเหนื่อยคิดคอนเทนต์อะไรให้ยุ่งยาก แค่ตามมาเฝ้าบ้านลุงพล คอยรายงานชีวิตแต่ละวันของลุงพลกับป้าแต๋น แค่นี้ก็ได้ยอดคนดูเป็นกอบเป็นกำ

สื่อหลัก สื่อรอง ศิลปินคนดัง เหล่านั้น แทบไม่เคยหยุดคิดสักนิดเลย ว่าแล้วถ้าลุงพล เป็นฆาตกรฆ่าน้องชมพู่จริงๆ เท่ากับพวกคุณมันช่างโหดเหี้ยมไร้หัวใจ ไม่เคยคิดถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่ต้องมาจบชีวิต อย่างน่าเวทนา

ขณะที่พ่อแม่น้องชมพู่ ก็แทบกระอักเลือด แทบตายทั้งเป็น เมื่อรู้อยู่เต็มอก ว่าลุงพลเป็นคนฆ่าลูกเขา แต่ลุงพลกลับกลายเป็นเซเลบในชั่วข้ามคืน พลิกฐานะจากาวไร่ยากจน เป็นเศรษฐี โดยที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ของเหยื่อ ได้แต่มองตาปริบๆ อย่างเจ็บปวด

ตอนนี้ กรรมก็ตามทันลุงพลแล้ว เมื่อศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งจำคุกลุงพลนาน 20 ปี

จาก “เต่างอย” ตอนนี้ลุงพลกลายเป็น “เต่าหงอย” ความโด่งดังกลับกลายมาเป็นหอกทิ่มแทง กระแสโซเชียลตีกลับ หันมารุมประณามลุงพลอย่างสุดแรงแค้น

แถมตามไปราวี “จินตหรา พูนลาภ” ทวงถามความรับผิดชอบ ที่เคยสวมบทนักปั้นฆาตกร ให้กลายเป็นดาว

ในเนื้อหาของคำพิพากษา จะเห็นว่าลุงพล ทิ้งร่องรอยความเป็นฆาตกรไว้เป็นทางยาว เพราะมีทั้งการไปข่มขู่พยาน ทั้งการเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียว ที่ไม่สามารถแสดงตำแหน่งที่อยู่ได้ ในช่วงเวลาเกิดเหตุ

ชาวเนตฉลาดๆ ก็ตามทันลุงพลมานานแล้ว เมื่อเห็นแอคติ้งสุดโอเว่อร์ ร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้ากล้อง ในแบบ “น้ำตาจระเข้”

ลุงพลโกหกให้คนจับได้สารพัดเรื่อง แม้แต่พูดออกสื่อก็โกหกตลอด ข้อเท็จจริงกลับไปกลับมา

เหตุเพราะลุงพลเป็นคนมีตรรกะเพี้ยนๆ เฉพาะตัวว่า “ความจริง พูดหลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน” ทั้งที่ตามหลักตรรกะแล้ว “ความจริงมีหนึ่งเดียว”

แม้จะมีพิรุธสารพัดเรื่อง แต่หมัดน็อกจริงๆ ก็คือ เส้นผมของน้องชมพู่ ซึ่งพบในรถกระบะของลุงพล ตรงที่วางแก้วน้ำ

ตรวจสอบด้วยเครื่องมือไฮเทค พบว่าเป็นเส้นผมที่ถูกตัด เข้ากันเป๊ะกับเส้นผมที่ตกในที่เกิดเหตุ บนภูเหล็กไฟ

“เณรแอ” จอมขมังเวทย์ ออกมาฟันธงฉับ ลุงพลตัดผมน้องชมพู่ ด้วยความเชื่อทางไสยศาสตร์ หวังสะกดวิญญาณ

ถ้าไม่มีเส้นผมนี้ ต่อให้มีพยานแวดล้อมมากแค่ไหน ก็เป็นไปได้ที่ศาลจะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ความเชื่อแนวสายมูของลุงพลนี่เอง ทำเอาเขาต้องประสบชะตากรรมเป็นฆาตกรฆ่าเด็ก

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น