“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ตอน หนองวัวซอโมเดล โครงการร่วมพัฒนา ‘กองทัพ-รัฐบาล’ สัมพันธ์ปึ้ก
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและกองทัพ ต้องเรียกว่าชื่นมื่นดีในเวลานี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะเห็นด้วยกับแนวคิดปฏิรูปกองทัพ แต่ปัจจุบันการปฏิรูปได้ถูกแทนที่ด้วยคำว่าการพัฒนาร่วมกันตามแนวคิดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หลายสถานการณ์ที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองฝ่าย คือ การที่รัฐบาลออกหน้ารับแทนกองทัพหลายกรณี โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำที่กำลังจะมีปัญหาถึงขนาดต้องเอาเงินที่เตรียมไปซื้อเรือดำน้ำไปซื้อยุทโธปกรณ์อื่นแทน
ตามมาด้วยการยืนยันว่า ไม่มีความคิดจะยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. แม้ว่ากอ.รมน.จะเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ผู้บริหารกอ.รมน.ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นนายพลติดดาวกันแทบทั้งสิ้น
เมื่อนายกรัฐมนตรีการันตีถึงสถานะของกอ.รมน. ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับกองทัพได้เป็นเนื้อเดียวกันแล้ว
โดยเมื่อไม่นานมานี้นายกฯได้หารือกับกอ.รมน.ถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ที่สำคัญกองทัพได้มอบที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพ 9,276 ไร่ภายในเดือนวันที่ 25 ธันวาคมนี้ เพื่อนำไปใช้สำหรับการดำเนินโครงการ 'หนองวัวซอโมเดล'
จึงทำให้น่าสนใจว่าโครงการหนองวัวซอ คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรสำหรับการทำงานของกองทัพ
โครงการหนองวัวซอ เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้กองทัพเข้ามาทำงานร่วมกับรัฐบาลในแง่มิติการแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนผ่านการบริหารจัดการที่ดินของกองทัพ โดยกองทัพบกได้ร่วมมือกับกรมธนารักษ์เพื่อแก้ไขกรณีมีการบุกรุกที่ดินของกองทัพที่ไม่ใช่ในส่วนของพื้นที่ความมั่นคง จึงเป็นที่มาของการดำเนินโครงการดังกล่าว
หนองวัวซอโมเดล เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในอำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความควบคุมของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 24 แบ่งเป็นฝึกประมาณ 28,357 ไร่ เหลือพื้นที่สำหรับให้ทำประโยชน์ได้ประมาณ 10,476 ไร่
โดยโครงการหนองวัวซอนั้นได้เริ่มต้นนำร่องมาตั้งแต่ 2565 ร่วมกับกรมธนารักษ์ ด้วยความตั้งใจว่าจะจัดระเบียบที่ดินและเปิดโอกาสได้รับสิทธิเช่าที่ดิน
นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการดังกล่าวได้มีประชาชนเพื่อขอรับการจัดสรรที่ดินทำกิน 1,597 ราย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9,276 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรภายใต้สัญญาเช่าระยะยาวและนายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินมามอบสัญญาเช่าให้กับประชาชนด้วยตัวเองในวันที่ 25 ธันวาคมนี้
โดยค่าเช่าแบ่งเป็น ค่าเช่ารายเดือนสำหรับที่อยู่อาศัย 50 สตางค์ต่อตารางวา ส่วนค่าเช่าสำหรับพื้นที่ทำการเกษตร 200 บาทต่อไร่ต่อปี ที่สำคัญกองทัพและรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนด้านสาธารณูปโภคให้กับประชาชน และผู้เช่าจะได้รับสิทธิเยียวยาจากภาครัฐในกรณีที่ดินทำการเกษตรได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการนี้อาจไม่ถึงที่เรียกว่าเป็นการปฏิรูปกองทัพ แต่อย่างน้อยที่สุดกองทัพในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ถูกเพ่งเล็งมาตลอด ก็ได้ขยับตัวแล้วผ่านการทำงานสร้างมวลชนกับรัฐบาลพลเรือน
ซึ่งเป็นการการันตีได้อย่างหนึ่งว่า ทหารยุคนี้ ในเบื้องหน้ามีสัมพันธ์แน่นปึ้กกับรัฐบาล แต่ระยะยาวสถานการณ์จะไปอย่างไร จะเข้ามาแทรกแซงการเมืองหรือไม่ ต้องจับตาดูกันไป มีข่าวว่าพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มองตาก็รู้ใจ
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1