“เศรษฐา” เผยแล้วข่าวใหญ่ ปลื้มคุยกองทัพเดือนเดียวรู้เรื่อง ยกที่ดินเกือบหมื่นไร่ อ.หนองวัวซอ อุดรธานี ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ มอบนโยบายพิจารณาให้ที่ดินเพิ่มอีก หวังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งประเทศ ยันไม่ยุบ กอ.รมน. ไม่อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เมื่อเวลา 15:45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุม ชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของ กอ.รมน.โดยที่ตนในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน. เป็นที่ทราบกันดีบทบาทของ กอ.รมน.นอกเหนือจากการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ตนอยากจะขอเพิ่มบทบาทของ กอ.รมน. ซึ่งในวันนี้ได้มีการพูดคุยกับทางกองทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่ายังจะมีอีกหลายๆ มิติ โดยมิติ 1 เป็นการสร้างรากฐานความพร้อมให้กับประเทศไทย เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคน ฉะนั้น ความมั่นคงในวันนี้เราต้องรวมถึงความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนด้วย
“ผมขอย้ำประเด็นสำคัญ ไม่กี่ข้อในวันนี้ ข้อแรก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทาง กอ.รมน.และกองทัพได้ช่วยมาโดยตลอด เพียงแต่ขอให้ย้ำแล้วกันว่าจะต้องช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติขอให้กำลังพลและข้าราชการ ช่วยกันประสาน ทุกๆ หน่วยงานร่วมกันบูรณาการ โดยระดมสรรพกำลังทรัพยากร เครื่องมือทางกองทัพและส่วนราชการต่างๆ เข้าสนับสนุนช่วยเหลือและปกป้องประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ซึ่งจริงๆ แล้วฤดูนี้เป็นฤดูฝนน้ำท่วม ซึ่งอีกไม่กี่เดือนคงประสบกับปัญหาภัยแล้งและปัญหาเอลนีโญก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งเราได้ขอความกรุณาจากทางกองทัพและ กอ.รมน.แล้วว่าต้องช่วยกันพัฒนาในเชิงรุก” นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ตนได้พูดในช่วงเช้า ว่าเป็นเรื่องใหญ่ และตนคิดว่า ทางกองทัพมีความปรารถนาดีโดยมีการพูดคุยกันตั้งแต่วันแรกๆ ที่ตนเข้ารับสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการพูดคุยขอร้องว่าอยากให้ช่วยดูเรื่องอะไรบ้าง โดยหนึ่งในเรื่องที่ตนขอร้องซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน ก็สามารถเห็นออกมาเป็นรูปธรรมได้ โดยความร่วมมือระหว่างภาคการเมืองกับทางด้านกองทัพ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนอยากให้ทางกองทัพมีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ร่วมแก้ไขปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือ ความยากจน แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ดินการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมของประเทศ
“เรื่องนี้ผมต้องขอชื่นชมทางกองทัพที่ได้ดำเนิน นโยบายการนำที่ดิน ภายใต้การดูแลของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล ซึ่งมีพื้นที่รวม 9,276 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยกำหนดส่งมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคมสิ้นปีนี้ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าต่อพี่น้องประชาชนจากกองทัพไทย เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่กองทัพมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ เรื่องนี้ ตนได้บอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วโดยส่วนตัวผมมีความชื่นชมต่อเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาหนเดียวและภายในเวลาเดือนกว่าๆก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังขอให้ทุกภาคส่วนมีส่วนช่วย ซึ่งทางกองทัพ และ กอ.รมน.จะเป็นภาคส่วนสำคัญ ซึ่งอีกแค่ 1 เดือนหรือ 2 เดือนกว่า เราจะเข้าสู่ฤดู PM 2.5 ซึ่งตนทราบ ว่ากอ.รมน.มีทีมงานร่วมกับ นักวิชาการแขนงต่างๆ ที่มีองค์ความรู้เรื่องการเปลี่ยนวัสดุทางด้านการเกษตรใบไม้แห้งในป่าให้เป็นเงิน สร้างรายได้ให้กับประชาชน แทนที่จะถูกเผาก่อให้เกิดมลพิษ จึงอยากขอให้ท่านขยายผลอย่างจริงจัง ซึ่งเข้าใจหรือไม่พวกท่านมีความพร้อมที่จะดำเนินการอยู่แล้วและขอให้ส่วนราชการต่างๆให้การสนับสนุนและขอทำให้สำเร็จเพื่อคืนอากาศสะอาดคืนคุณภาพชีวิตคืนศักดิ์ศรีและสุขภาพที่ดีต่อคนไทยทุกคน
อย่างไรก็ตาม ท้ายนี้ต้องขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินการตามที่กล่าวมาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการยื่นหน่วยงานราชการและภาคการเมืองและกองทัพพยายามที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้นและส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการยุบหน่วยงาน กอ.รมน. ได้มีการพูดกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จากการที่พูดไปในวันนี้ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน. เลย ตามความเข้าใจของตนที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ว่า ที่มาที่ไปของเรื่องนี้มันคืออะไร เรียกว่าในสมัยก่อน หน่วยงานนี้ เป็นหน่วยงานที่ปราบปรามคอมมิวนิสต์ ซึ่งเดี๋ยวนี้คอมมิวนิสต์ไม่มีบริบทการทำงานของ กอ.รมน.ก็เริ่มเปลี่ยนไปวันนี้ เราไม่ได้มีการพูดเรื่องคอมมิวนิสต์เลย แต่ เป็นเรื่องของการทำช่องว่าง ระหว่างความเข้าใจผิดระหว่างกองทัพกับประชาชนลดน้อยลงอันนี้ตนถือว่าเป็นเรื่องขั้นต้น เรื่องการมอบที่ดินให้ หนองวัวซอ 9,000 กว่าไร่ โดยทุกๆกองทัพจะมีการนำที่ดินออกมาอีกและขณะที่ตนลงลิฟต์มา ยังได้เรียนกับรองผู้อำนวยการ กอ.รมน. และ ผบ.ทบ.ไปว่า ขออย่าให้หยุดแค่นี้ และให้ดูด้วยว่าไม่ใช่มอบที่ดินไปแล้วมไม่มีแหล่งน้ำอาจจะรวมไปถึงการขุดแหล่งน้ำเพื่อให้เขามีระบบชลประทานที่ดีกว่าเพื่อไปประกอบอาชีพได้จริงจัง รวมถึงเรื่องของ พ.ร.บ.อากาศสะอาด และเรื่องที่จะต้องช่วยกันดูแลเรื่องภัยแล้งน้ำท่วม
“ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการยึดหน่วยงาน กอ.รมน.เลย ไม่ได้อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้ ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจ และไม่ได้อยู่ในนโยบายรัฐบาลนี้เลยแม้แต่สักน้อย ชัดเจนนะครับ” นายเศรษฐา กล่าวย้ำหนักแน่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกล เดินเกม ยุบ กอ.รมน.ผ่านการล่ารายชื่อ เพื่อยื่นร่างกฎหมายต่อสภา นายเศรษฐา กล่าวว่า จากการที่ตนได้แถลงไปในวันนี้หน่วยงานรัฐ ทำงานได้รวดเร็ว พูดกันอย่างผู้ใหญ่ๆ และได้ทานข้าวกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ขอไปเรื่องเดียว ขอไปแป๊บเดียวเดือนครึ่งก็ออกมาแล้ว เราพูดด้วยผลงานดีกว่าตนคิดว่า อย่าไปพูดในเรื่องวาทกรรมเรื่องอื่นเป็นเรื่องของพรรคนั้นๆไปแล้วกัน ให้เขาไปเข็นเข้าสู่สภาเองแล้วกันทางฝ่ายกองทัพ ฝ่ายหน่วยงานรัฐ และฝ่ายพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องเราทำงานอย่างเดียว และให้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินแล้วกัน
เมื่อถามว่า แสดงว่า นายกฯ ไม่ได้มองว่า กอ.รมน.เป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาลแต่ละสมัยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่การเจรจาสนทนาระหว่างที่ตนมีความสัมพันธ์มากับทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารบก และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไม่มีพูดเรื่องการเมืองแม้กระทั่งนิดเดียว ไม่มีการไปขอร้องให้โยกย้ายใคร แม้กระทั่งนิดเดียวและที่คุย บ่อยที่สุดคือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กับ ผู้บัญชาการทหารบก เรื่องช่วยเหลือคนงานไทยที่ติดอยู่และถูกจับกุมโดยกลุ่มฮาบาส ยืนยันไม่มีเรื่องการเมือง มีหลายคนที่ปิดทองหลังพระ อย่าง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ช่วยอย่างเต็มที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ช่วยคุยกับกรมธนารักษ์ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ในการนำที่ดินสู่ประชาชน ไม่มีเรื่องใดเรื่องการเมือง ไม่มี ยืนยัน
