xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพอยู่เป็น รัฐบาล “โดนตก” เรียบร้อย!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - สุทิน คลังแสง
เมืองไทย 360 องศา

สถานภาพของกองทัพ กับฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทย ในเวลานี้ ถือว่า “ราบรื่น” ไปได้สวยแบบเกินคาด เรียกว่าประสานงานสอดรับกันเป็นอย่างดี ไม่มีทีท่าว่าจะเกิดอาการ “ปีนเกลียว” ออกมาให้เห็นเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่พรรคเพื่อไทย ยังเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลก่อน ตอนนั้นบรรดา “ดาวสภา” ของพรรค ต่างก็ดาหน้าเข้าถล่มกองทัพกันแทบไม่พัก แม้ว่าดีกรีอาจจะไม่แรงเท่ากับพรรคก้าวไกล ที่มีวาระที่น่าสงสัยก็ตาม แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย ก็ถือว่า ไม่เบาเหมือนกัน

หากยังพอจำได้ มีชื่อ นายสุทิน คลังแสง เมื่อครั้งยังเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ก็มีบทบาทอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็น “บิ๊กทิน” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามาคุมกองทัพแบบเซอร์ไพรส์ ตอนแรกก็เดากันล่วงหน้าว่าต้องมีรายการเขม่นกันแน่ แต่กลายเป็นว่า “ผิดคาด” ทุกอย่างแทบจะไหลลื่น ฝ่ายกองทัพก็ให้เกียรติ ต้อนรับขับสู้อย่างดี ขณะที่ฝ่ายการเมือง ก็ให้เกียรติกองทัพ

แม้แต่โครงการ “เรือดำน้ำ” ที่มีปัญหาเรื่อง “เครื่องยนต์” ตอนแรกหลายคนคงคิดว่า ต้องถูก “จม” แน่นอน แต่กลายเป็นว่า มีความพยายามหาทางออกร่วมกันอย่างเต็มที่ หรือแม้แต่ข้อเสนอเปลี่ยนเป็น “เรือฟริเกต” แทนก็ตาม แม้ว่าทุกอย่างยังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายว่าในที่สุดแล้วจะออกมาแบบไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นท่าทีการประสานเป็นเนื้อเดียวกัน

ล่าสุดกับท่าทีเรื่องการเคลื่อนไหว “ยุบ กอ.รมน.” หรือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในของพรรคก้าวไกล โดยเตรียมเสนอเป็น ร่างพระราชบัญญัติเข้าสภาในสมัยประชุมหน้า ซึ่งในตอนแรกคิดว่าอาจจะสร้างความปั่นป่วนได้ไม่น้อย เพราะมีความพยายามทำสำรวจความเห็นทางออนไลน์ โดยเชื่อว่า จะสามารถสร้างกระแส “เกลียดทหาร” มาช่วยหนุน แต่กลายเป็นว่า ผลออกมาเป็นตรงกันข้าม นอกเหนือจากมีเพจ “เซฟ กอ.รมน.” มาดับกระแสอย่างได้ผลแล้ว ผลสำรวจที่ออกมาล่าสุดเมื่อตอนค่ำวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา คนไม่เห็นด้วยกับการยุบ กอ.รมน. มากถึงกว่าร้อยละ 72 ขณะที่เห็นด้วยเพียงแค่ร้อยละ 27 เท่านั้น
ขณะที่ท่าทีล่าสุดของรัฐบาล โดยเฉพาะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมไปถึง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า “ไม่ยุบ” อย่างแน่นอน เนื่องจากยังมีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับบทบาทหน่วยงานบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

นายเศรษฐา แถลงภายหลังการประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) วันที่ 31 ตุลาคม ว่า เป็นการประชุมร่วมกับ กอ.รมน.ครั้งแรก ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกับกองทัพแล้วอยากเพิ่มบทบาทในหลายมิติ วางรากฐาน สร้างความพร้อมให้กับประเทศไทยเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชน รวมถึงความมั่นคงในชีวิตนี้ หมายถึงความมั่นคงที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน

โดยประเด็นแรก คือ ต้องช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ ระดมสรรพกำลัง รวมถึงทรัพยากรและเครื่องมือของกองทัพ ร่วมกับส่วนราชการเพื่อช่วยเหลือประชาชน

อีกเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ และมองว่า กองทัพมีความปรารถนาดี ซึ่งมีการพูดคุยตั้งแต่วันแรกๆ ที่ตนเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ การแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน โดยนำที่ดินของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะที่ดินทำการเกษตร ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างรายได้ สร้างโอกาสและความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ พร้อมขอชื่นชมกองทัพได้นำนโยบายการนำที่ดินที่ดูแลภายใต้กองทัพมาดำเนินการผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล มีเนื้อที่ 9,276 ไร่ มีกำหนดส่งมอบให้กับประชาชนในวันที่ 25 ธันวาคม 66 นี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนจากกองทัพไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนที่ดีที่กองทัพไทย จะได้ร่วมมือในการพัฒนาประเทศและขยายไปในพื้นที่ต่างๆ

“ส่วนตัวมีความชื่นชมในเรื่องนี้และเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาภายในเวลาไม่กี่เดือนก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ได้มีการหารือเรื่องปัญหา PM 2.5 เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปัญหานี้แล้ว จึงเห็นว่า กอ.รมน. ซึ่งมีทีมงานร่วมกับนักวิชาการการเกษตร ในการเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้มีมูลค่า แทนที่จะถูกเผาก่อให้เกิดฝุ่นพิษ จึงอยากขอให้ขยายผลอย่างจริงจัง และขอให้ส่วนราชการต่างๆสนับสนุน เพื่อคืนอากาศสะอาด คืนคุณภาพชีวิต คืนศักดิ์ศรี และสุขภาพที่ดีต่อคนไทยทุกคน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การหารือกันวันนี้ ไม่มีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน. เลย ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ว่า ที่มาที่ไปเรื่องนี้คืออะไร วันนี้บริบทการทำงานของ กอ.รมน. ก็เริ่มเปลี่ยนไป การคุยกันเป็นเรื่องการพัฒนาและการลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับประชาชนให้ลดน้อยลง เช่น โครงการมอบที่ดินให้กับประชาชนที่หนองวัวซอ ก็จะขยายไปในพื้นที่อื่นด้วย พร้อมขอให้ดูด้วยว่า การมอบที่ดินไปแล้วหากไม่มีแหล่งน้ำก็ต้องดูเรื่องระบบชลประทานด้วย เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีเรื่องของปัญหาภัยแล้งด้วย

“ไม่มี อะไรที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน. ไม่ได้อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้ ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจและไม่ได้อยู่ใน นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แม้แต่น้อย” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล เดินเกมล่ารายชื่อ ประชาชนเสนอร่างกฎหมาย ยุบ กอ.รมน. นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากฟังที่ตนแถลงวันนี้ หน่วยงานรัฐที่ทำงานรวดเร็ว พูดกันอย่างผู้ใหญ่ๆ ทานข้าวกับผู้บัญชาการเหล่าทัพไปขอไปเรื่องเดียว ขอไปแป๊บเดียว เดือนครึ่งก็ออกมาแล้ว เราพูดด้วยผลงานดีกว่า อย่าไปพูดเรื่องวาทกรรม เรื่องอื่นก็เป็นให้เรื่องของพรรคนั้นๆไป ให้เขาเข้าไปเข็นเข้าสู่สภาเองก็แล้วกัน ทางฝ่ายกองทัพ ฝ่ายหน่วยงานรัฐ และการเมืองที่เกี่ยวข้องเราทำงานอย่างเดียวให้ประชาชนตัดสินใจ
ได้เห็นท่าทีแบบนี้ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.กอ.รมน.) โดยตำแหน่ง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง ที่ประสานเสียงไม่ยุบ อีกทั้งยังออกปากชมเชยการทำงานของกองทัพอีกต่างหาก เรียกว่า งานนี้ไม่รู้ว่าใคร “โดนตก” กันแน่
อีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความแนบแน่นแบบผิดคาด ก็คือ นำที่ดินของกองทัพที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาจัดสรรให้ประชาชนเป็นที่ทำกิน โดยนำร่องในภาคอีสาน โดยเรียกว่า เป็น “หนองวัวซอโมเดล” เนื้อที่กว่าเก้าพันไร่ และยังมีอีกหลายพื้นที่รวมแล้วเบื้องต้นกว่าหมื่นไร่ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เป็นต้นไป ซึ่งในกรณีนี้ นายเศรษฐา ได้เอ่ยปากชมไม่ขาดปาก เพราะได้คะแนนเสียงไปเต็มๆ
ขณะเดียวกัน หากมองในทางการเมืองแล้ว การยุบ กอ.รมน. ต่างหาก ถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะอย่างที่รู้กันว่าหน่วยงานนี้ มีขอบข่ายงานกว้างขวางมาก ครอบคลุมไปทุกหน่วยงานและทุกพื้นที่ ดังนั้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในทางการเมืองได้อย่างเต็มที่เหมือนกัน และพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า พรรคก้าวไกล กำลังก้าวพลาดอีกครั้ง !!



กำลังโหลดความคิดเห็น