“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 ตอน บุ้ง-หยก ทะลุวัง ระบายแค้นตุลาการ เบื้องหลังปะทะตำรวจศาล
เป็นประเด็นร้อนแรงตอนนี้ ภายหลังปรากฏคลิปวีดีโอการกระทบกระทั่งกันระหว่างนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง กับเจ้าหน้าตำรวจประจำศาลภายในบริเวณศาลอาญากรุงเทพ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากแกนนำกลุ่มทะลุวังต้องการเข้าไปให้กำลังใจ'โฟล์ค สหรัฐ' หรือ อดีตสามเณรโฟล์ค ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาให้จำเป็นคุกเป็นเวลา 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่จำเลยได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี
โดยก่อนหน้านี้ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เคยเป็นข่าวใหญ่มาแล้วจากการไปชุมนุมถึงหน้าที่ทำการของพรรคเพื่อไทยระหว่าการเจรจาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ครั้งนั้นบุ้งได้เผชิญหน้าและปะทะคารมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จนเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ถูกพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้เพิกถอนการประกันตัว แต่ศาลได้ยกคำร้องเพราะเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิเพื่อแสดงออกทางการเมือง
จากนั้นบุ้ง ทะลุวังก็ได้มีความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ก่อนจะกลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม
เหตุการณ์ครั้งล่าสุด มีความชุลมุนเพราะมีการกระทบกระทั่งทั้งฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะได้ออกมาชี้แจงต่อสังคมในเวลาต่อมา โดยฝ่ายของกลุ่มทะลุวังอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น และได้มีการมาแตะต้องตัวหยก ธนลภย์ นักกิจกรรมของกลุ่ม
ทำให้บุ้งต้องเข้ามาห้ามและเกิดเถียงกับเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ไม้ตีบุ้งบริเวณแขนจนเลือดออก
ขณะที่ สำนักงานศาลยุติธรรม ออกเอกสารข่าวแจกสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ศาลได้มีการพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งศาลได้ดำเนินการเสร็จแล้ว จากนั้นได้มีเยาวชนหญิงได้ปีนรั้วเข้ามาในบริเวณศาล ทั้งที่ศาลไม่ได้ปิดประตูรั้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงได้เข้าห้ามปราม ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาผลักอกเจ้าพนักงานตำรวจศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงเดินถอยออกมาและพูดห้ามปรามตามยุทธวิธีหลายครั้ง แต่ก็ไม่หยุดและยังเดินเข้าหาเจ้าพนักงานตำรวจจึงใช้กระบองตีระงับเหตุและป้องกันตัว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดประเด็นที่ต้องมาขบคิดกันว่าเจ้าพนักงานตำรวจศาลทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 บัญญัติให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานตำรวจศาลไว้หลายประการ เช่น รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยและทรัพย์สินในบริเวณศาล ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในบริเวณศาล รักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม รวมทั้งอาคารสถานที่และทรัพย์สินของศาลและสำนักงานศาลยุติธรรม
ตำรวจศาลยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดการตามหมายจับในกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกหรือคำสั่งศาล เป็นต้น นอกจากนี้ มาตรา 10 ยังให้ความคุ้มครองแก่เจ้าพนักงานตำรวจศาลในฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และให้มีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาด้วย เป็นต้น
ตำรวจศาล มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และมีฐานะศักดิ์ศรีเป็นตำรวจ ไม่ใช่พนักงานรักษาความปลอดภัย
ดังนั้น หากมองตามข้อกฎหมายแล้ว ตราบใดที่เจ้าพนักงานตำรวจศาลดำเนินการตามกรอบที่กฎหมายกำหนดก็ไม่ต้องรับผิด ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับใครที่คิดจะเข้ามาใช้สิทธิเกินขอบเขตภายในบริเวณศาล
สำหรับบุ้งกับหยก ที่ปีนรั้วเข้ามาป่วนในบริเวณศาล ด่าทอศาลด้วยคำหยาบคาย และเตะถีบทำร้ายตำรวจศาล พฤติกรรมที่ต่ำช้าทั้งหมดล้วนเป็นการละเมิดอำนาจศาล หากต้องรับโทษชดใช้การทำผิด ตามกฎหมายก็เป็นความยุติธรรมแล้ว
นอกจากจะถูกมองว่า รับจ้างป่วนแล้ว เฉพาะ หนึ่งในสองคนนี้ อาจจะมีเจตนาต้องการระบายแค้นส่วนตัว กับคนใกล้ชิดตนเองที่มีหน้าที่การงานอยู่ในอำนาจตุลาการ ด้วยหรือไม่ ?
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1