“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 ตอน ขยายเวลาเปิด ผับ บาร์ 'ศีลธรรม-ธุรกิจ-เศรษฐกิจ' เส้นขนานที่ยากบรรจบ
รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำลังอยู่ในช่วงของการเดินหน้าทำทุกทางเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์จีดีพีของประเทศปีนี้จะโตประมาณ 2.5-3% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3.7%
ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการส่งออกที่มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เองทำให้รัฐบาลต้องพยายามให้กระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น
แนวคิดเรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจนถึงเวลา 4 นาฬิกา หรือ ตีสี่ จึงถูกนำมาชูโรงอีกครั้ง เพื่อเป็นธงนำสำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มเม็ดเงินให้กับระบบเศรษฐกิจ โดยแนวคิดนี้รัฐบาลที่ผ่านมามีความพยายามจะดำเนินนโยบายนี้มาแล้วเมื่อปลายปี 2565 นำร่องใน 8 จังหวัดท่องเที่ยว
แต่เรื่องก็ถูกพับไป เนื่องจากเป็นช่วงปลายสมัยของรัฐบาล พอล่วงเลยมาจนถึงการเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่ ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาเม็ดเงินจากภาคการท่องเทียว ทำให้นายเศรษฐาต้องออกมาผลักดันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ความตั้งใจของรัฐบาลนั้นต้องการให้สถานบันเทิงที่มักลักลอบเปิดเกินเวลากลับมาดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมายกำหนด เพราะการไปไล่กวดขันตามควบคุมในทุกที่นั้นเป็นเรื่องที่เกินกำลังของเจ้าหน้าที่
จึงคิดว่าควรกำหนดแนวทางและพื้นที่ให้ชัดเจน หรือ โซนนิ่ง เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นนอกจากจะทำให้ง่ายต่อการควบคุมแล้วยังเปิดโอกาสในการทำธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย
จากแนวคิดของรัฐบาล หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องก็เริ่มออกมาพร้อมรับไปดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล อย่างสำนักตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงกรุงเทพมหานครโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกทม. ยืนยันพร้อมทำตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ให้หารือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติก่อนหน้านี้ภายใต้การกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันไม่ให้เยาวชนที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง
เบื้องต้นรัฐบาลเล็งนำร่องเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงในพื้นที่เป้าหมายหลายแห่ง เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ และ กรุงเทพมหานคร โดยเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในการสำรวจความพร้อมและการกำหนดมาตรการรองรับ เพื่อควบคุมการประกอบธุรกิจในพื้นที่ที่ได้รับการขยายเวลาเปิดให้บริการ
แนวคิดของรัฐบาลในเรื่องนี้มีหลายฝ่ายออกมาสนับสนุนไม่เว้นแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่รัฐบาลต้องมีแนวทางป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงสนับสนุนรัฐบาลจากภาคเอกชนหรือฝ่ายการเมืองนั้น แต่ในภาคของประชาสังคมนั้นยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เครือข่ายภาคประชาชนทั้งเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลการขยายเวลาการเปิดให้บริการของสถานบันเทิงจะเป็นการส่งเสริมอบายมุขและเพิ่มพื้นที่เสี่ยงให้กับประชาชน หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
ประกอบกับที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐยังไม่สามารถควบคุมการเกิดอุบัติเหตุ ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น นโยบายนี้ของรัฐบาลอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย
มาถึงจุดนี้คงต้องรอดูว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีวิธีโน้มน้าวให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมีท่าทีอ่อนลงอย่างไร เพราะมิเช่นนั้นแล้วเรื่องนี้อาจเป็นข้อพิพาทที่ต้องไปชี้ขาดกันที่องค์กรอิสระอย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือไปจนถึงศาลปกครองก็เป็นได้
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1
