“รองฯ ต่อศักดิ์” เป็นประธานฌาปนกิจ “ผกก.เบิ้ม” คนแห่ร่วมอาลัยล้นวัด รับปากจะดูแลครอบครัวตลอดไป พ่อเผยลูกชายคือสิ่งมีค่ามากที่สุดในชีวิต หลังเกิดเหตุร้องไห้ทุกวัน ชาติหน้าขอเกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ วัดใหญ่ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. และนายตำรวจระดับสูง เดินทางเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจศพ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. โดยมี อดีตผู้บังคับบัญชาของ ผกก.เบิ้ม เดินทางมาร่วมงานด้วย อาทิ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ อดีตนักสืบมือดีของ สตช., เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 39 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 55 เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการระดับสูงในจังหวัดให้ความสำคัญและเข้าร่วมงานจำนวนมาก
สำหรับบรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนๆ และญาติพี่น้องต่างโอบกอดร่ำไห้ รวมทั้งพูดกันถึงคุณงามความดีที่ ผกก.เบิ้ม เคยมีไว้ตลอดระยะเวลาที่รับราชการตำรวจ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เดินทางมาในวันนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ พ.ต.อ.วชิรา และครอบครัว ในคดีของ สารวัตรศิว นั้นในเบื้องต้นตนซึ่งดูงานสายปราบปราม ก็ได้ไปยังที่เกิดเหตุตั้งแต่ต้น โดยคดีนี้แบ่งออกเป็นสองคดี ในคดีแรก เป็นคดีที่มือปืนยิง สารวัตรศิว ในส่วนนี้ บช.ก. เป็นคนดูแลโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. อีกคดีคือ ในส่วนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่จะดูและสำนวนในคดีอื่นๆ ประกอบคือในส่วนของ บช.ภ.7
“วันนี้ผมมาในฐานะ ผกก.เบิ้ม เป็นน้องที่ทำงานอยู่กันมานาน ตั้งแต่สมัยเป็นกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ จนร่วมกันปั้นเป็นกองบังคับการมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 และเปลี่ยนมาเป็น กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ สังกัด บช.ก. และ ผกก.เบิ้ม ถือเป็น ผกก.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายคนแรกของหน่วย จบการเรียนด้านนี้มาโดยเฉพาะ มีผู้กำกับการต่อต้านฯ แค่สามคนคือ สังกัด กก.ปพ. - นเรศวร 261 - อรินทราช 26 เราสร้างเขามาเพื่อตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อ ผกก.เบิ้ม ทำงานจนครบสองปีในตำแหน่งก็ต้องให้รุ่นน้องขึ้นมาทำหน้าที่แทน ส่วนตัวเองนั้น ย้ายไปเป็น ผกก.2 บก.ทล. ทำงานถวายความปลอดภัยดูแลเส้นทางเสด็จฯ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่ผ่านมาพวกเราอยู่กันแบบพี่น้อง จึงบอกได้เลยว่าเราจะดูแลลูกและครอบครัวของ ผกก.เบิ้ม ตลอดไป ปัจจุบันได้ตั้งกองทุนไว้ดูแลและไม่ใช่แค่ ผกก.เบิ้ม เพียงคนเดียว กองทุนนี้จะดูและพี่น้องตำรวจคนอื่นๆ เพื่อองค์กรด้วย วันนี้ขอให้ดูคนที่มาร่วมงานฌาปนกิจมีจำนวนมาก เพราะ ผกก.เบิ้ม เป็นคนน่ารัก ที่ผ่านมา เขามีภารกิจพิเศษที่ไม่มีใครรู้อีกจำนวนมาก ถือว่าเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก
ด้าน พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ บิดา ผกก.เบิ้ม กล่าวด้วยความโศกเศร้า ว่า ผกก.เบิ้ม เป็นสิ่งที่มีค่ามากของตนและครอบครัวและญาติพี่น้องทุกคน ที่ผ่านมา เขาถือเป็นตำรวจที่เสียสละอย่างมาก มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของความเป็นนักรบ รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายเป็นอย่างมาก หลังเกิดเหตุตนร้องไห้ทุกวัน หากเกิดใหม่ขอให้เราได้เกิดมาเป็นพ่อลูก เป็นครอบครัวเดียวกันเช่นนี้อีก
สำหรับ ผกก.เบิ้ม เป็นลูกชายคนโตของ พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ อดีตนายทหารม้า ม.พัน 7 ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ มารดาคือ นางประไพ ยาวไทยสงค์ เป็นครูใน จ.น่าน โตมาในครอบครัวทหาร สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 39 เหล่าตำรวจ นรต.รุ่น 55 ภายหลังจบจากโรงเรียน นรต. ได้เข้าประจำการที่ จ.ศรีสะเกษ บรรจุครั้งแรก เมื่อปี 2545 ที่ กิ่ง อ.ศรีรัตนะ เป็น นรต.ชุดแรกของโรงพัก
โดยเส้นทางอาชีพตำรวจของ พ.ต.อ.วชิรา ได้ร่วมทำงานกับ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ นับเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ต่อมาย้ายมาสังกัดกองปราบปราม ขึ้นเป็นสารวัตรคอมมานโด หรือกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม ก่อนย้ายไปอยู่กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขยับเป็นผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าว กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ต่อมาเป็นผู้กำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กก.ปพ.บช.ก. และล่าลุด ปี 64 ได้รับการสนับสนุนให้ย้ายไปเป็น ผกก.2 บก.ทล. กระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าสลดดังกล่าว